อว. ขานรับยุทธศาสตร์ "รวมไทยสร้างชาติ" ระดมมหาวิทยาลัยพัฒนาชุมชน ดันโครงการ “1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย” จ้างงานบัณฑิตตกงาน 3 แสนคนเข้า ครม.

พฤหัส ๐๙ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๖:๕๔
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า อว.จัดทำ “โครงการการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ” หรือ “โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย” เพื่อสนับสนุนการจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตจบใหม่ และนักศึกษา จำนวน 3 แสนอัตราพร้อมยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ โดยมีมหาวิทยาลัยในพื้นที่เป็นศูนย์กลางในการดูแลครอบคลุมทั้งหมด 7,900 ตำบลทั่วประเทศ โดยในระยะแรกครอบคลุม 3,000 ตำบล งบประมาณกว่า 13,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเสนอครม.ได้ภายในสัปดาห์หน้า
อว. ขานรับยุทธศาสตร์ รวมไทยสร้างชาติ ระดมมหาวิทยาลัยพัฒนาชุมชน ดันโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย จ้างงานบัณฑิตตกงาน 3 แสนคนเข้า ครม.

รมว.อว.กล่าวต่อว่า โครงการนี้ คือ การเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆอย่างบูรณาการในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมีเป้าหมายชัดเจนโดยใช้สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ เรามีมหาวิทยาลัยชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎ ราชมงคล เพียงพอที่จะตอบโจทย์ เพราะเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆในพื้นที่ได้ เป็นผู้บูรณาการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดย 1 ตำบล จะมี 1 มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่ดูแล นี่คือโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส คือการที่จะทำอย่างไรที่จะใช้พลังมหาวิทยาลัยทั่วประเทศทำเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ผ่าน พรก.เงินกู้ 400,000 ล้าน การดำเนินการโครงการนี้จะช่วยสร้างงาน ทั้งบัณฑิต นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ที่ลงไปทำ การพัฒนาพื้นที่ของตนเอง สนับสนุนกิจกรรมการดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของสถาบันอุดมศึกษารายตำบล ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านการพัฒนาสินค้าและบริการชุมชน ด้านการพัฒนาการตลาดและสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านการส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงานชุมชน ด้านการส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูและพัฒนาท้องถิ่นตนเอง และการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนและด้านอื่นๆ โดยมุ่งเน้นในการจัดทำข้อมูลพื้นฐานชุมชนจากสู่บิ๊กดาต้าเพื่อเจาะลึกถึงปัญหาและแนวทางในการแก้ปัญหาในแต่ละท้องที่ เพื่อใช้ในการวางแผนการพัฒนาชุมชนสู่คูวามยั่งยืนต่อไปและจะเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก

“โครงการนี้จะเป็นมิติใหม่ในการทำงาน ภายใตยุทธศาสตร์ “รวมไทยสร้างชาติ” ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างประเทศแบบนิวนอร์มอลซึ่งท่านนายกให้ความสำคัญและความสนใจอย่างมาก เพราะบัณฑิตเป็นทรัพยากรของประเทศ ในการนำพลังศักยภาพบัณฑิตผ่านการจ้างงาน เราจ้างงาน 3 แสนคนในพื้นที่ก่อให้เกิด “บัณฑิตติดถิ่น” เพื่อที่จะรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่น เราจะปลูกฝังแนวความคิดสู่การพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน อาทิ ภาษาอังกฤษ ดิจิทัล การเงิน สังคมและด้านอื่นๆ อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดการดำเนินการบูรณาการจะมีการจัดทำระบบการบูรณาการ โครงการต่างๆในอีก 2 ระดับคือ ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ โดยเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษา 9 ภูมิภาคของ อว. ได้แก่ เครือข่ายภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน และภาคใต้ตอนล่าง จะทำหน้าที่ในการบูรณาการโครงการ ต่างๆระหว่างชุมชนหรือตำบลในพื้นที่ ทั้งด้านการใช้ทรัพยากรโครงการร่วมกัน แบ่งเป็นองค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมถึงการเชื่อมต่อกันในห่วงโซ่คุณค่า ของสินค้าและบริการ เช่นการผลิตวัตถุดิบ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การบริโภคสินค้าและบริการ การท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ เป็นต้น” ดร.สุวิทย์ กล่าวและว่า โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย นับเป็นกลไกสำคัญในการปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยไทย เพื่อสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมแก้ชุมชนท้องถิ่นที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ปรับเปลี่ยนบทบาทของมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง

“ในทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ ผมคิดว่าหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศยังคงต้องดำเนินต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังของเยาวชน ผมมีความเชื่ออยู่เสมอเยาวชนของเรานั้นเป็นผู้กำหนดอนาคตประเทศ เป็นคนขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า แต่ในขณะนี้เรากำลังอยู่ในยุคนิวนอร์มอลผมเชื่อว่าสิ่งสำคัญหลังโลกโควิด 19 คือ การสร้างความเข้มแข็งจากภายในก่อนเชื่อมโยงกับประชาคมโลก ด้วยการใช้ เศรษฐกิจฐานราก เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยจึงเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศ” ดร.สุวิทย์

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดเผยว่า “โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย” เป็นโครงการที่ อว. ได้เสนอของบประมาณใน พรก.เงินกู้ 400,000 ล้าน โดยเบื้องต้นจะดำเนินการใน 3,000 ตำบล และขยายไปให้ครบ 7,900 ตำบลในอนาคต ภายใต้โครงการนี้ จะมอบหมายให้มหาวิทยาลัย เข้าไปดูแลแต่ละตำบลแบบองค์รวม โดยการนำองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าไปช่วยทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน คุณภาพชีวิต และสุขภาวะของชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบมีเป้าหมายชัดเจน (Targeted Poverty Alleviation) โดย 1 ตำบล จะมี 1 มหาวิทยาลัย ในพื้นที่ทำหน้าที่ดูแลอย่างเป็นระบบและบูรณาการ (System Integrator)นอกจากเป็นการพัฒนาพื้นที่แบบองค์รวมอย่างเป็นระบบแล้ว ภายใต้โครงการนี้ยังจะมีการจ้างงานทั้งบัณฑิต นักศึกษา และประชาชนเพื่อเข้าไปช่วยงานในการพัฒนา ตำบลละไม่น้อยกว่า 20 คน โดยผู้ที่ได้รับการจ้างงานยังจะได้รับการพัฒนาทักษะ และองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาตนเองและต่อยอดไปสู่ธุรกิจได้

โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัยนี้ ถึงแม้ว่า เป็นโครงการที่ใช้ งบประมาณเงินกู้ 1 ปี แต่ อว. ได้วางรากฐานการพัฒนาในรูปแบบนี้ เพื่อการดำเนินการในระยะยาว เพื่อปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยไทย ให้เป็น มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาพื้นที่และใช้โจทย์จากพื้นที่เพื่อการวิจัยและพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4