บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL ชี้ธุรกิจแผ่นฟิล์ม PET แกร่ง รับ ศก.โลกทยอยฟื้นตัวหลังคลายล็อคดาวน์จาก COVID-19

อังคาร ๐๔ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๑๙
บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET เพื่อใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เปิดเกมรุกตลาดผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์ม PET ชูศักยภาพด้านฐานการผลิตยักษ์ใหญ่อันดับ 5 ของโลก รับความต้องการใช้ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหารพุ่ง 30-40% จากปัจจัย COVID-19 พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หนุนความมั่นคงด้านรายได้ มั่นใจผลการดำเนินงานปี 2563 เติบโตได้ดี
บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL ชี้ธุรกิจแผ่นฟิล์ม PET แกร่ง รับ ศก.โลกทยอยฟื้นตัวหลังคลายล็อคดาวน์จาก COVID-19

นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET เพื่อใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมแผ่นพิล์ม PET ในตลาดโลกมีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง ที่ได้รับความนิยมนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงวิกฤต COVID-19 เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปหันมาสั่งซื้อสินค้าและอาหารผ่านทาง Online มากขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ผลิตแผ่นฟิล์ม PET ของโลกได้รับประโยชน์และเร่งผลิตสินค้ารองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีการประเมินว่า ตลาดผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง เพื่อนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคของภูมิภาคอาเซียน ช่วง COVID-19 เติบโตสูงถึง 30-40% จากเดิมเติบโตเฉลี่ย 5-7% ต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทฯ ถือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET รายใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นอันดับ 5 ของโลก จากฐานการผลิตใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย อินเดีย ไทย อินโดนีเซีย ตุรกีและสหรัฐอเมริกา จึงได้รับอานิสงส์ในเชิงบวกจากปริมาณความต้องการใช้แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาวในอัตราปกติ 5-7% ต่อปี โดยเอเชียถือเป็นตลาดใหญ่ ที่มีสัดส่วนการใช้แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง คิดเป็น 3 ใน 4 ของแผ่นฟิล์มทั่วโลก เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน ในหลายประเทศยังมีอัตราการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ต่อหัวต่อปียังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว จึงเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทฯ ที่มุ่งผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง รับความต้องการของใช้ในภูมิภาคนี้มากขึ้น

ขณะที่ตลาดแผ่นฟิล์ม PET ชนิดหนา ที่ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น เทปฉลาก การเคลือบด้วยความร้อน การถ่ายภาพและงานกราฟิก แผงโซล่าเซลล์ การก่อสร้าง และอุปกรณ์เกี่ยวกับแสง แม้ว่าที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 แต่หลังจากที่หลายประเทศได้ประกาศคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง จึงคาดว่าความต้องการจะฟื้นตัวกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งมีอัตราขยายตัวอยู่ที่ 4-6% ต่อปี และช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ รับจังหวะเศรษฐกิจฟื้นตัว

กรรมการผู้จัดการ PTL กล่าวว่า แผนดำเนินงานในปี 2563/2564 บริษัทฯ ได้มุ่งสร้างความแข็งแกร่งในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องและการสร้างมูลค่าเพิ่ม (High Value Product) ของแผ่นฟิล์ม PET ทั้งชนิดบางและชนิดหนา ผ่านฐานการผลิตทั้ง 5 แห่ง รองรับโอกาสทางธุรกิจที่เกิดขึ้น โดยใช้งบลงทุน 90-100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,000 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าและยกระดับความสามารถด้านการผลิต เช่น การลงทุนแผ่นฟิล์ม BOPP หรือแผ่นฟิล์มโพลีโพรพีลีน ที่มีประสิทธิภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นในด้านความยืดหยุ่น โปรงใสและโปร่งแสง ในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2564-2565 โดยมีกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนขนาดเล็กในผลิตภัณฑ์ปลายน้ำอื่นๆ เช่น การผลิตฟิล์มเคลือบซิลิโคน ฟิล์ม โฮโลแกรม แผ่นฟิล์ม Blown ฟิล์มเป่าและแผ่นฟิล์มเคลือบนอก ในสายการผลิตในไทยและตุรกี เป็นต้น

“เรามีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน จากกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจที่มุ่งเน้นสร้างนวัตกรรมเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์มและการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและความมั่นคงทางธุรกิจรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ จากดีมานต์ความต้องการของตลาดที่เกิดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว และรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดี ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ ที่มีฐานการผลิตที่ช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพการผลิตด้วยต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราเก็บเกี่ยวรายได้และสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ ได้อย่างยั่งยืน” นายอมิต ปรากาซ กล่าว

นายมานิตย์ กุปต้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน PTL กล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในรอบปี 2563/64 (เมษายน 2563-มีนาคม 2564) จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีรอบบัญชี 2562/63 ที่มีรายได้รวม 14,051 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,804 ล้านบาท โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2563/64 (เมษายน-มิถุนายน 2563) จะทำยอดขายได้ดีขึ้น จากปริมาณความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง ในบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัวในอุตสาหกรรมอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตและอัตราการใช้เครื่องจักรที่ดี ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest