สธ.เผย!!ผลวิเคราะห์ปัญหา-อุปสรรคการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 56

ศุกร์ ๑๘ มกราคม ๒๐๑๓ ๑๓:๑๗
สธ.เผย!!ผลวิเคราะห์ปัญหา-อุปสรรคการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ 56สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนรับมืออุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันหยุด

สธ.เผยผลจากการการรณรงค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่56 แม้สถิติผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนจะลดลง แต่การเกิดอุบัติเหตุรุนแรงและเสียชีวิตกลับเพิ่มมากขึ้น มอบหน่วยงานในงานในสังกัดวิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นปัญหาและอุปสรรค เตรียมนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานและใช้ประโยชน์ในการวางแผนรับมืออุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆและวันหยุดราชการต่อเนื่อง 9 ครั้งตามปฏิทินปี56 นี้

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวถึงสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ช่วง 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.55 — 2 ม.ค.56 ที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมของการดำเนินงานเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 แม้จำนวนผู้บาดเจ็บจะลดลง แต่จำนวนการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 410 ราย และมากที่สุดจะเป็นการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุถึงร้อยละ 65.37 ซึ่งเป็นผลมาจากความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ และความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละครั้งก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย รองลงมาคือการเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินร้อยละ 16.59 เสียชีวิตในโรงพยาบาลภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ร้อยละ 10.98

เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี โดยเทียบจากจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 100 ครั้ง พบว่าปี 56 ความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุจะสูงสุดถึง 11.49 ซึ่งสูงกว่าปี 55 = 10.83, ปี 54 = 10.24 ,ปี 53 = 9.82 และปี 52 =9.60 ตามลำดับ และพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลต่อระดับความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากการขับรถเร็ว ถนน-สิ่งแวดล้อมที่มีวัตถุอันตรายอยู่ข้างทาง การไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน (ไม่สวมหมวก ไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย) การนั่งท้ายกระบะ (กรณีเกิดอุบัติเหตุ) ง่วง/หลับใน และ เมาแล้วขับ (ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับการไม่ใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย หมวก-เข็มขัด ร่วมด้วย) ส่วนประเภทของถนนที่พบการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ร้อยละ 40.16 คือบนทางหลวงรองลงมาคือบนถนนของ อบต./หมู่บ้านและยังพบอีกว่าผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนมักมีการดื่มสุราร่วมด้วยสูงที่สุด

ส่วนสถิติการโทรสายด่วน 1669 ในช่วงเทศกาลปีใหม่รวมทั้งหมด 18,708 ครั้ง แต่มีเพียงร้อยละ 11ที่นำส่งโดยทีมหน่วยแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1669 เกินครึ่งใช้ผ่านมูลนิธิ/อาสาสมัครฯ ซึ่งมีการเสียชีวิตขณะนำส่งประมาณร้อยละ 8 ทั้งนี้การนำส่งโดยทีมกู้ชีพฉุกเฉิน1669 จะช่วยให้ผู้ประสบอุบัติเหตุได้รับการช่วยเหลือ และเคลื่อนย้ายที่ถูกวิธี ช่วยลดอัตราการบาดเจ็บที่อาจรุนแรงขึ้นและลดการเสียชีวิตได้มากถึงร้อยละ 96.76 ปีนี้ สธ.จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญและใช้บริการสายด่วน 1669 ให้มากขึ้นเพื่อลดการเสีย ชีวิตหรือความพิการจากอุบัติเหตุให้ได้มากที่สุด และได้มอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำผลสรุปจากการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ มาวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรค เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานและใช้ประโยชน์ในการวางแผนรับมืออุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆและวันหยุดราชการต่อเนื่อง 9 ครั้งตามปฏิทินปี56นี้

ด้านดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงการฉลองปีใหม่ ยังมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ ส่วนใหญ่จะมีการดื่มสุราร่วมด้วย รองลงมาคือ การขับรถเร็วเกินกำหนด และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยที่จะช่วยในการลดความรุนแรงของการบาดเจ็บ และจากการวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การรณรงค์ลดอุบัติเหตุในปีนี้ยังไม่ได้ตามเป้า เบื้องต้นคณะทำงานได้ให้ข้อเสนอว่าการดำเนินการต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหาและลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนต้องไม่ทำงานเฉพาะช่วงเทศกาล ต้องส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานมีมาตรการองค์กรให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัย ดำเนินงานแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องตลอดปี มีการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเพียงพอ เช่น เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อผลอย่างเป็นรูปธรรมในการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย พร้อมกับสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉิน และหมายเลขแจ้งเหตุ 1669 ขยายบริการให้ครอบคลุม สนับสนุนการดำเนินงานของหน่วย EMS ขั้นพื้นฐาน (FR) ขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มีการพัฒนาระบบข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนโดยบูรณาการข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและโรงพยาบาลร่วมกันให้สามารถบอกถึงระบาดวิทยาการบาดเจ็บเพื่อนำไปวางแผนแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคยังได้แสดงความเป็นห่วงถึงกรณีที่ปี 2556 นี้ จะมีวันหยุดราชการต่อเนื่อง 3-4 วันติดต่อกันถึง 9 ครั้ง นอกเหนือจากวันหยุดครั้งแรกช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้นไป และยังมีการประเมินว่าในปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นมาก จึงเกรงว่าช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 9 ครั้งของปีนี้ จะเป็นตัวเร่งและกระตุ้นให้มีการเดินทางท่องเที่ยวหรือไปพบปะสังสรรค์กันระหว่างคนในครอบ ครัว/ญาติ หรือเพื่อนกันมากขึ้น และจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่มักมีการสังสรรค์กันด้วยสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุจากการจราจรทางบก

“จึงขอเตือนสติและให้ข้อแนะนำแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนว่าการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดต่างๆอย่างได้ผลหรือเป็นรูปธรรมมากที่สุดอยู่ที่ตัวผู้ขับขี่เอง ผู้ขับขี่ควรเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนด้วยการตระหนัก คิดถึงคนอื่น ดื่มไม่ขับ เมาไม่ขับ หากดื่มจนมีอาการเมา ห้ามขับรถเองอย่างเด็ดขาด ควรจอดพักในบริเวณที่ปลอดภัยจนกว่าจะหายเมาแล้วค่อยขับรถหรือใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะหรือรถแท็กซี่จะปลอดภัยกว่า หากไปด้วยกันหลายคน ควรให้ผู้ที่ไม่ดื่มขับรถแทน ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้นควรขับรถในอัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด คือไม่เกิน 90 กม./ชม. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งใช้อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารยานพาหนะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุหรือลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะการคาดเข็มขัดนิรภัยซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ประสบเหตุหลุดออกนอกรถ เพราะหากหลุดออกนอกตัวรถจะทำให้มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่อยู่ในรถถึง 6 เท่า”

“ส่วนผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ควรสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง เพื่อลดอาการบาดเจ็บทางสมองหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยเลือกหมวกนิรภัยที่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) กำกับไว้ และชนิดเต็มศีรษะจะปลอดภัยมากกว่าแบบอื่นๆ และหากมีเด็กเดินทางไปด้วย ควรให้เด็กสวมหมวกนิรภัยสำหรับเด็กด้วย” อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวทิ้งท้าย.

กลุ่มเผยแพร่ สำนักงานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค

โทรศัพท์:0-2590-3862 / โทรสาร: 0-2590-3386

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๒๙ ไทยพาณิชย์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch เปิดตัว โปรจีน อาฒยา นักกอล์ฟหญิงระดับโลก เป็น Brand
๑๔:๓๐ KCG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น
๑๔:๔๙ บาฟส์ ประกาศความสำเร็จ ลุยขยายโครงข่ายขนส่งน้ำมันทางท่อ เชื่อมต่อเครือข่ายพลังงานทั่วไทย
๑๔:๓๙ บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024
๑๔:๐๘ Finnomena Funds มองสงครามคลายกังวล เป็นโอกาส Buy the Dip แนะจังหวะสะสม กองทุนหุ้นเวียดนาม ดาวเด่น
๑๔:๕๔ กลุ่ม KTIS คว้า 3 รางวัลโรงงานน้ำตาลดีเด่นและอ้อยรักษ์โลก ประจำปี 2566
๑๔:๒๒ AKP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567
๑๔:๕๒ บัญชี ttb all free พร้อมดูแลต่อหลังสงกรานต์ มอบสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุฟรีให้คนไทย ไม่มีวันจบ
๑๔:๕๘ SINO จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567
๑๓:๑๘ เรียน ONLINE- เรียนลัดคัดหุ้นเด็ด ฉบับปรับปรุงใหม่ (CC01)