สมองเสื่อม…คืออะไร?
ภาวะสมองเสื่อมจริงๆ แล้วเป็นแค่อาการแสดงอย่างหนึ่งของโรคซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ความหมายโดยทั่วไปของสมองเสื่อมคือ การด้อยประสิทธิภาพในการทำงานของสมองทุกๆ ด้าน แบบค่อยเป็นค่อยไป เช่นความสามารถในการเรียนรู้ ความจำ การคำนวณ หรือการใช้ความคิดที่สลับซับซ้อน รวมถึงประสิทธิภาพทางการสื่อภาษา การแปลความหมาย
จะทราบได้อย่างไรว่ามีอาการสมองเสื่อม?
ในการตรวจแพทย์อาจต้องทดสอบความจำ การคำนวณ สังเกตการแก้ปัญหาง่ายๆ คนที่เป็นโรคสมองเสื่อมมักสูญเสียความจำที่เพิ่งเรียนรู้ใหม่ๆ แต่ความจำในอดีตมักจะยังดี ยกเว้นในกรณีที่เป็นมากหรือเป็นมานานๆ
สมองเสื่อมจริง แตกต่างจากสมองเสื่อมเทียมอย่างไร?
ส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคมองเสื่อมจริงๆ มักจะไม่ค่อยรู้ตัวว่าตัวเองเป็น แต่ญาติหรือคนใกล้ชิดหลายๆ คนจะสังเกตอาการ และให้ข้อมูลแก่แพทย์ทราบถึงความผิดปกติทางสมองที่ค่อยเป็นค่อยไป ตรงกันข้ามกับผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อมเทียม ที่มักจะบอกกับแพทย์โดยตรงว่าตัวเองหลงลืมง่าย และวิตกกังวลว่าจะเป็นโรคสมองเสื่อม
ภาวะใดที่เรียกว่าสมองเสื่อมเทียม?
ก่อนที่แพทย์จะบอกคุณเป็นโรคสมองเสื่อมแพทย์จำเป็นต้องตรวจแยกโรคสมองเสื่อมเทียม ซึ่งพบได้บ่อย อันได้แก่ ภาวะที่เกิดจากความเครียดนอนไม่หลับความวิตกกังวลโรคซึมเศร้าและโรคจิตประสาทอื่นๆซึ่งมีผลทำให้ความคิดอ่านของสมองไม่ปกติ
เครื่องวินิจฉัยความผิดปกติทางระบบสมอง
เครื่อง MRI เป็นเครื่องตรวจวินิจฉัย ที่อาศัยพลังงานสนามแม่เหล็กผนวกกับคลื่นวิทยุและคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยในการสร้างภาพอวัยวะภายในร่างกายMRIมีประโยชน์มากในการตรวจหาความผิดปกติของระบบสมองระบบประสาทไขสันหลัง กระดูกและข้อต่างๆ ภาพ MRI ที่ได้ จะชัดเจนว่าการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT SCAN)และไม่มีผลทางรังสีต่อผู้ป่วย
สมองเสื่อมเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเกิดจากความเสื่อม ดังนั้นจึงพบได้บ่อยในคนสูงอายุ ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ และสังขาร ส่วนใหญ่ไม่สามารถแก้ไขให้ได้ดีดังเดิม สาเหตุใหญ่ๆ แบ่งได้ดังนี้
- สมองเสื่อมจากวัยชรา
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคสมองเสื่อมที่เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
- ภาวะเลือดคั่งในสมอง หรือเนื้องอกในสมอง
- ภาวะขาดวิตามิน บี 12
- โรคติดเชื้อที่มีผลทางสมอง
- สมองเสื่อมจากการติดสุราเรื้อรังนานๆ
- ภาวะที่เกิดตามหังการขาดออกซิเจน
นอกจากนี้ยังมีบางโรคทำให้เกิดสมองฝ่อบางส่วนเช่น โรคพาร์กินสัน ซึ่งทำให้เกิดอาการสั่น เคลื่อนไหวช้าลง เป็นต้น
แล้วจะดูแลอย่างไร..ไม่ให้เป็นโรคสมองเสื่อม?
การป้องกันในสิ่งที่ทำได้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเราไม่สามารถหยุดยั่งความเสื่อมตามธรรมชาติได้แต่เราสามารถดูแลสุขภาพของงราให้ดี เช่น ควบคุมความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมัน ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติอย่างสม่ำเสมอไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า หลีกเลี่ยงสารเสพติด ซึ่งจะมีผลทำลายสุขภาพในระยะยาว ไม่สำส่อนทางเพศ เพื่อป้องกันโรคเอดส์ ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใสอยู่เสมอ มีความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นในครอบครัว ยอมรับสภาพตามความเป็นจริง ไม่เคร่งเครียดเกินไป เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้ชีวิตมีความสุขได้ระดับหนึ่ง