คุณแอม ชญาดา มาตรเจริญ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารโยคะ เจอร์นัล และผู้เชี่ยวชาญด้านการเต้นอินเดียนแดนซ์ เล่าว่า “ประวัติของการเต้นรำแบบอินเดียมีมายาวนาน บางตำราบอกว่าคนอินเดียเต้นรำเพื่อบูชาพระเจ้า บางตำราบอกว่ากษัตริย์ของอินเดียในสมัยก่อนทรงหาความสำราญโดยการชมการเต้นรำประกอบดนตรี ซึ่งต่อมาแพร่หลายไปในกลุ่มสามัญชนชาวอินเดียทั่วไป ดังนั้นจะเห็นได้ว่าดนตรีและการเต้นถือเป็นหัวใจของชาวอินเดีย ซึ่งปัจจุบันการเต้นดังกล่าวถูกประยุกต์ให้มีหลายรูปแบบมากขึ้นทั้งการเต้นเพื่อความบันเทิง การเต้นเพื่อความสนุกสนาน รวมไปถึงการเต้นเพื่อสุขภาพหรือเป็นการออกกำลังกาย”
“อินเดียน แดนซ์ ถือเป็นการออกกำลังกายประเภทหนึ่ง ที่ผู้เล่นจะได้ขยับร่างกายทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น ลำตัว ไหล่ แขน ขา โดยเฉพาะ อก เอว สะโพก รวมไปถึงใบหน้าที่ต้องแสดงออกตามเนื้อเพลง เช่น การแอบมอง การเขินอาย การส่งสายตา ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการเต้นประเภทนี้ โดยรูปแบบการเต้นอินเดียนแดนซ์ที่เหมาะสมกับคนไทยแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ “คลาสสิคอล แดนซ์ (Classical Dance)” เป็นการเต้นแบบพื้นบ้านของอินเดียในสมัยก่อน ลักษณะคล้ายการรำไทยแต่จังหวะการเต้นจะไม่ช้ามากนัก เน้นการเคลื่อนไหวของท่วงท่าผ่านการใช้มือและเท้ารวมถึงการแสดงออกทางสีหน้าเพื่อแสดงความหมายของบทเพลงที่เต้น ดังนั้นการเต้นชนิดนี้นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังได้ฝึกสมาธิเพิ่มด้วย เพราะท่าเต้นจะมีความซับซ้อนต้องอาศัยความจำที่ดี ต่อมาคือการเต้นแบบ “เซมิ คลาสสิคอล แดนซ์ (Semi-Classical Dance)” การเต้นชนิดนี้จะใช้ท่วงท่าไม่ซับซ้อนเท่ากับรูปแบบคลาสสิคอล เพราะมีการผสมผสานขั้นตอนการเต้นแบบบัลเล่ต์เข้าไป เพื่อให้การเต้นแสดงออกมาอย่างสร้างสรรค์ และการเต้นแบบ บอลลีวูด แดนซ์ (Bollywood Dance) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานหรือทักษะด้านการเต้นมาบ้าง เพราะการเต้นชนิดนี้จะผสมผสานการเต้นแบบ ป๊อปแดนซ์ ลาติน และการเต้นแบบอินเดียพื้นเมืองเข้าด้วยกัน ท่าทางจะเน้นความสนุกสนาน งดงามเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ส่วนทำนองเพลงที่ใช้จะเสียงดังกึกก้อง คล้ายกับในภาพยนตร์อินเดีย”
คุณแอมบอกว่า “การเต้นแนวนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง รูปร่างสมส่วน หรือสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกายเท่านั้น แต่การเต้นอินเดียนแดนซ์ยังเป็นการเต้นออกกำลังกายที่ช่วยทำให้หัวใจทำงานดีขึ้น ช่วยคลายเครียด อีกทั้งยังช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 500-1,000 กิโลแคลอรี เทียบเท่าข้าวขาหมู 1 จาน ช่วยลดไขมันส่วนเกิน และกระชับสัดส่วนได้ดี โดยเฉพาะบริเวณแขน สะโพก ต้นขา พร้อมๆ กับการสร้างกล้ามเนื้อท้อง เพราะว่าท่าเต้นแบบฉบับของอินเดียนี้จะเน้นการใช้สรีระช่วงอก เอว และสะโพกเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าหากเราปฎิบัติได้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ชั่วโมง พร้อมทั้งรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีตามหลักโภชนาการ เพียง 3 เดือนก็จะได้หุ่นสวยในแบบที่หลายคนต้องอิจฉา”
นอกจากนี้ คุณแอม แนะนำหลักการเตรียมตัวง่ายๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มเต้นอินเดียนแดนซ์ คือ เตรียมร่างกายให้พร้อม ส่วนอุปกรณ์การเรียนเต้นก็ไม่มีอะไรมาก แค่หาชุดที่สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี
และควรสวม Elastic Bandage ที่ข้อเท้าและเท้าทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าได้รับความบาดเจ็บจากการกระโดดในท่าเต้น ส่วนผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หรือมีโรคประจำตัว ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ เพราะการเต้นดังกล่าวจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
สำหรับท่านใดที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้ เมคเฟรนด์ โยคะ สตูดิโอ สีลม ซอย 9 สอนโดยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอินเดียนแดนซ์ ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หรือร่วมเรียนภายในงาน “ไทยแลนด์ โยคะ เฟส (Thailand Yoga Fest. 2014) ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2557ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.yogajournalthailand.com www.makefriendsyoga.com หรือสอบถามที่ 02 238 3826-7 และ 089 126 8271