สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดงานมหกรรมรณรงค์ให้ติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ(AED) ในสถานที่ที่มีโอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฉุกเฉิน
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนาระบบการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันโดยสนับสนุนให้มีการติดเครื่องAED ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงจะเพิ่มการรณรงค์ให้มีการเตรียมพร้อมการช่วยฟื้นคืนชีพ ในที่สาธารณะที่มีโอกาสและความเสี่ยงจะเกิดภาวะฉุกเฉินดังกล่าวขึ้นอย่างครบวงจร โดยในระยะเริ่มต้นได้ตั้งเป้าหมายให้มีการติดตั้งเครื่องAEDและฝึกการปฐมพยาบาลพร้อมการช่วยฟื้นคืนชีพให้ครบวงจรให้ได้อย่างน้อย 3,000 แห่งทั่วประเทศภายในระวะเวลา 3 ปี โดยการจัดงานรณรงค์ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงในวันนี้ก็เพื่อสอดรับกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ตนได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเราตั้งเป้าให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆที่อยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฉุกเฉินได้ตระหนักเรียนรู้ เห็นความสำคัญ และเข้าใจถึงการใช้งานและติดตั้งเครื่อง AED การจัดงานในครั้งนี้นั้นนอกจากจะมีการสาธิตวิธีการใช้งานเครื่อง AEDให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้รับชมแล้วยังมีเวทีเสวนาเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนและหน่วยงานต่างๆที่เข้าร่วมงาน ในหัวข้อ “AED เชื่อมห่วงโซ่การรอดชีวิต”ด้วย
ด้านนพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จะมีการมอบเครื่อง AED จำนวน 29 เครื่องที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิชินโสภณพนิช ,บริษัท Philipsประเทศไทย จำกัด มหาชน และบริษัท เซ็นต์เมดิคอล (คริติคอล แคร์) จำกัดเพื่อกระจายติดตั้งในพื้นที่สาธารณะต่างๆที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมากอาทิ สถานีรถไฟหัวลำโพงสถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัย ท่าเรือคลองเตยสนามกีฬาศุภชลาศัยสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน (หัวหมาก) ทำเนียบรัฐบาลรัฐสภา สวนลุมพินีตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำดอนหวาย ฯลฯนอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่มีความสนใจจะติดตั้งเครื่อง AEDเองเพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญของประชาชนที่ต้องเข้ามาใช้บริการอาทิสนามมวยลุมพินี บริษัท ESSO รวมไปถึงเครือข่ายภาคประชาชนต่างๆ เช่นชมรมจักรยาน สำหรับเครื่อง AEDนั้นจะมีรูปแบบการทำงานเป็นระบบปฏิบัติการแบบอิเล็กทรอนิกส์พกพาซึ่งประชาชนทั่วไปก็สามารถใช้เครื่องนี้ได้ภายใต้คำแนะนำของผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินโดยเมื่อมีการเปิดการใช้งาน เครื่อง AED จะเริ่มวินิจฉัยภาวะหัวใจเต้นหากหัวใจเต้นผิดจังหวะและเป็นอันตรายถึงชีวิตเครื่องจะสามารถให้การรักษาด้วยการช็อกไฟฟ้ากระตุกหัวใจโดยใช้กระแสไฟฟ้าหยุดรูปแบบการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะเพื่อเปิดโอกาสให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ในจังหวะที่ถูกต้องได้
เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้สพฉ.ได้ออกมารณรงค์ให้หน่วยงานต่างๆที่มีศักยภาพเห็นถึงความสำคัญในการติดตั้งและฝึกอบรมให้มีการใช้เครื่องAEDรวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงการใช้เครื่องAEDเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันสำหรับเครื่อง AED นั้นถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศอาทิสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นโดยมีผลวิจัยว่าสามารถช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินให้รอดชีวิตได้มากกว่าร้อยละ45 ทั้งนี้หากประชาชนทั่วไปพบผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเบื้องต้นให้ตั้งสติและรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669และหากมีคำแนะนำให้ใช้เครื่อง AEDช่วยชีวิตให้ผู้ช่วยเหลือฉีกซองบรรจุอิเล็คโทรดโดยแผ่นอิเล็คโทรดจะมีอยู่2ชิ้นซึ่งชิ้นแรกจะต้องนำไปติดบนทรวงอกตอนบนของผู้ป่วย และชิ้นที่สองจะต้องติดบนผิวทรวงอกตอนล่างของผู้ป่วย จากนั้นเครื่อง AEDจะทำการวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจซึ่งขณะนี้ห้ามผู้ที่ช่วยเหลือสัมผัสตัวผู้ป่วยเด็ดขาด
จากนั้นเมื่อเครื่องวินิจเสร็จเสร็จแล้วจะขึ้นสัญญาณให้ทำการช็อคไฟฟ้าให้ผู้ช่วยเหลือกดที่ปุ่มช็อคตามสัญญาณที่ปรากฏอยู่บนตัวเครื่องและสลับกับการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพผู้ป่วยหรือCPR อย่างต่อเนื่องจนกว่าเจ้าหน้าที่กู้ชีพจะมาถึง โดยการช่วยเหลือควรทำภายใน 3-5 นาทีจะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินได้มากขึ้น
นพ.อนุชา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานที่ที่ควรติดตั้งเครื่องAEDคือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านและมีความเสี่ยงสูง อาทิสถานีรถไฟสถานีรถโดยสารประจำทาง สนามบิน ท่าเรือบนเครื่องบินและการขนส่งมวลชนที่มีระยะทางไกล (รถไฟหรือเรือโดยสาร)ฟิตเนสเซ็นเตอร์สปอร์ตคลับ สนามกีฬาและการแข่งขันกีฬาจำนวนคนมาก ๆรวมถึงสนามกอล์ฟห้างสรรพสินค้า และย่านร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีคนมาใช้บริการประมาณ 5,000คนต่อวัน หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆสถานที่สาธารณะขนาดใหญ่ศูนย์กลางชุมชน สถานพยาบาลหรือสถานดูแลผู้สูงอายุอพาร์ทเมนท์ที่มีผู้สูงอายุมากกว่า 50 คน โรงเรียนบริษัท โรงงาน สถานบันเทิงโรงแรมหรือศูนย์ประชุมขนาดใหญ่รวมทั้งพื้นที่ห่างไกลจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเช่น เกาะ หรือหุบเขาลึกนอกจากนี้การติดตั้งจะต้องพิจารณาตำแหน่งของการติดตั้งเครื่องให้เหมาะสมโดยควรตั้งอยู่ในที่ที่สามารถนำมาช่วยฟื้นคืนชีพได้ภายใน5นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้นและควรอยู่ใกล้กับลิฟท์หรือบันไดในอาคารสูงและง่ายต่อการค้นหามีป้ายให้เห็นอย่างเด่นชัดและควรมีการจัดทำแผนผังของอาคารที่เข้าใจง่ายพร้อมกับมีป้ายชี้ทางบอกให้เห็นบริเวณที่มีการติดตั้งเครื่องAEDและเครื่อง AEDจะต้องอยู่ในสถานที่ที่ดึงออกมาใช้งานได้สะดวกภายในเวลา 1นาที
นอกจากนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจะต้องมีผู้ดูแลรักษาเครื่องตรวจสภาพเครื่องให้พร้อมใช้งานสม่ำเสมอและควรมีการลงทะเบียนในแผนที่แสดงที่ตั้งAEDไว้กับศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัดที่สำคัญจะต้องมีการฝึกอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพพร้อมกับการใช้เครื่องAEDแก่พนักงานประจำพื้นที่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยหรืออาสาสมัครที่อยู่ประจำบริเวณดังกล่าว