สพฉ. จับมือ สธ. พัฒนาการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ์” เปิด 6 อาการฉุกเฉินวิกฤติที่เสี่ยงต่อชีวิตรักษาได้ฟรีในรพ.ที่ใกล้ที่สุด พร้อมประสานรพ.เอกชนลดข้อขัดแย้งในการปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉิน

พุธ ๐๘ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๖:๔๓
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมเพื่อเตรียมพิจารณาปรับปรุงแนวทางในการให้บริการประชาชนตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ์”

นายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า แนวทางการให้บริการตามนโนบายนี้นั้นประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินถึงแก่ชีวิตสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที เพื่อป้องกันการพิการและเสียชีวิตได้โดยจะไม่มีภาระค่าใช้จ่ายที่กระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้ป่วย แต่ที่ผ่านมาการให้บริการก็ยังพบปัญหาอยู่พอสมควร อาทิ ประชาชนไม่กล้าเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากกลัวไม่มีค่ารักษา อีกทั้งมียังมีกรณีที่หลายโรงพยาบาลมีข้อขัดแย้งเรื่องการรับรักษาประชาชนเนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีภาวะวิกฤติ ดังนั้นสพฉ.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จึงได้มีการประชุมหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้น และทำให้ประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับการรักษาในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นไปตามนโยบายอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเพื่อปรับปรุงแนวทางการให้บริการดังนี้ 1. กระทรวงสาธารณสุขและสพฉ.ได้ร่วมกันกำหนดคำนิยามของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงทีให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลว่าอาการในลักษณะใดบ้างที่หมายถึงภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที 2. มีการจัดทีมแพทย์ให้ประจำการที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อวินิจฉัยถึงอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินของประชาชนที่เข้ารับการรักษาในกรณีที่มีความขัดแย้งถึงอาการเจ็บป่วยว่าเข้าข่ายกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติหรือไม่ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการคัดแยกให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น 3. จัดตั้งคณะทำงานเพื่อประสานการทำงานและหารือกับโรงพยาบาลเอกชนเพื่อให้เข้าใจถึงแนวทางตามนโนบายดังกล่าว และแก้ปัญหาข้อขัดแย้งในการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน

เลขาธิการ สพฉ. กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางในการให้บริการตามนโนบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ์” นั้น ประชาชนที่พบว่าตนเองมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถเข้าไปขอรับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ได้ทันที โดยเมื่อประชาชนไปถึงโรงพยาบาลแล้วเจ้าหน้าที่จะตรวจดูสภาพอาการพร้อมทั้งวินิจฉัยตามเกณฑ์ว่าเข้าข่ายของการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติหรือไม่ หากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติก็จะได้รับการรักษาในทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่ทั้งนี้หากมีข้อขัดแย้งทางอาการก็จะรีบส่งต่อให้ทีมแพทย์ที่ประจำการอยู่ที่ สพฉ.วินิจฉัยอาการและหากเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติก็จะรีบรักษาอย่างทันท่วงที จนกว่าจะพ้นภาวะวิกฤติที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะสามารถทำได้ภายในเวลารวดเร็ว ส่วนประชาชนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ก็สามารถโทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อขอรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อส่งต่อไปผู้ป่วยไปเข้ารับการรักษาตามสิทธิของผู้ป่วยได้ต่อไป

“ต่อจากนี้เรื่องที่ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนคือภาวะแบบไหนเรียกว่าเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินที่มีภาวะวิกฤติและต้องได้รับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่ใกล้อย่างทันท่วงที ซึ่งสังเกตได้จาก 6 อาการที่ส่งผลต่อชีวิตและอวัยวะสำคัญ ดังนี้1.หัวใจหยุดเต้น ไม่หายใจ ไม่ตอบสนองต่อการเรียกหรือกระตุ้น จำเป็นต้องได้รับการกู้ชีพทันที 2.การรับรู้ สติเปลี่ยนไป บอกเวลา สถานที่ คนที่คุ้นเคยผิดอย่างเฉียบพลัน 3.ระบบหายใจมีอาการดังนี้ ไม่สามารถหายใจได้ปกติ หายใจเร็ว แรง และลึก หายใจมีเสียงดังผิดปกติ พูดได้แค่สั้นๆ หรือร้องไม่ออก ออกเสียงไม่ได้ สำลักอุดทางเดินหายใจกับมีอาการเขียวคล้ำ 4.ระบบไหลเวียนเลือดวิกฤติอย่างน้อย 2 ข้อ คือ ตัวเย็นและซีด เหงื่อแตกจนท่วมตัว หมดสติชั่ววูบ หรือวูบเมื่อลุกยืนขึ้น 5.อวัยวะฉีกขาด เสียเลือดมาก เสี่ยงต่อการพิการ และ 6.อาการอื่นๆ ที่มีภาวะเสี่ยงต่อชีวิตสูง เช่น เจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาอ่อนแรงทันทีทันใด ชักเกร็ง เป็นต้น” นพ.อนุชากล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4