นายแพทย์สุรเชษฐ์ อภินิลบงกช สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า “สถิติการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงไทย ยังคงสูงเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไปที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเชื้อเอชพีวีไวรัสที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูก สามารถอยู่ในร่างกายคนเราโดยไม่แสดงอาการใดๆ จากเซลล์ปกติจนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ใช้เวลาประมาณ 5 ปี และจากเซลล์ที่เริ่มผิดปกติจนกลายเป็นมะเร็งอีกประมาณ 5 ปี หากเราสามารถตรวจพบเซลล์ที่ผิดปกติได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ก็จะทำให้การรักษาในระยะต่อไปมีประสิทธิภาพ ไม่ลุกลามจนเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้”
ทางด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ไพโรจน์ จรรยางค์ดีกุล? หัวหน้าศูนย์พยาธิวิทยาและเอชพีวี โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า “สำหรับวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวีที่เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูกที่แม่นยำที่สุด ยังคงเป็นการตรวจภายใน หรือการทำ Pap Smear โดยสูตินรีแพทย์ แต่ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่กลัวหรืออาย และไม่ยอมทำการตรวจภายใน โดยการใช้เทคโนโลยีการตรวจหาเชื้อเอชพีวีจากปัสสาวะ ซึ่งทำให้ผู้รับการตรวจทราบผลตรวจได้ภายในระยะเวลา 3 วัน แต่วิธีนี้เป็นเพียงการตรวจหาเชื้อเอชพีวีเบื้องต้นเท่านั้น หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อเอชพีวีก็วางใจได้ แต่ถ้าตรวจพบเชื้อ จะต้องเข้ารับการตรวจภายในเพื่อยืนยันผลที่แน่นอนต่อไป มะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้เพียงเข้ารับการตรวจเป็นประจำทุกปี”
สำหรับสมาชิกที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ KTC Phone โทรศัพท์02-665-5030 หรือที่ www.ktc.co.th