รพ. บำรุงราษฎร์มั่นใจปลอดภัยจากเมอร์ส พนักงานที่ต้องอยู่เฝ้าระวังอาการได้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว

พฤหัส ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๓:๔๙
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แจ้งว่าวันนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้อนุญาตให้พนักงานของโรงพยาบาลฯ ที่อยู่ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังอาการที่โรงพยาบาลทั้งหมดกลับบ้านแล้ว ซึ่งมีความหมายว่าในวันนี้ 2 กรกฎาคม 2558 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่มีผู้ที่ต้องสงสัยโรคไวรัสเมอร์สรายใดอยู่ในโรงพยาบาลฯ จึงมีความปลอดภัยและพร้อมบริการตามปกติ

นับจากการรายงานโรคไวรัสเมอร์สในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในฐานะที่เป็นผู้รายงานผู้ป่วยที่ต้องสงสัย และได้ทำการคัดกรองจนสามารถป้องกันการระบาดเข้าสู่ชุมชน รวมทั้งได้จัดการย้ายผู้ป่วยเพื่อไปรับการรักษาต่อยังสถาบันบำราศนราดูร ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างปลอดภัย และสามารถควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สได้ ตามที่รับทราบโดยทั่วกันแล้วนั้น

ทางโรงพยาบาลฯ ขอแจ้งว่ายังคงปฎิบัติตามมาตรการที่เข้มข้น เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการ บุคลากรของโรงพยาบาลฯ และสังคมโดยรวม ด้วยมาตรการขั้นสูงสุด อาทิ ติดตั้งเครื่อง Thermo Scan เพื่อตรวจจับผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายเกินกำหนด ตั้งคลินิกคัดกรองพิเศษ (Special Screening Clinic) และเพิ่มห้องดูแลผู้ป่วยแยกแบบ Airborne Infection Isolation Room เพื่อสำหรับคัดกรองผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดยไม่ให้ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป เข้มงวดและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์สาธารณะต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การติดต่อประสานงานร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเมอร์ส และฝ่ายบริหารมีการติดตาม เฝ้าระวัง และประชุมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปรับแผนรองรับสถานการณ์ตามความเหมาะสมตลอดเวลา

ด้วยมาตรการและแนวทางการปฏิบัติที่ทำมาอย่างต่อเนื่องทำให้โรงพยาบาลฯ สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที จนโรงพยาบาลฯ ได้รับการชื่นชมทั้งจากภายในประเทศ ได้แก่กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบัน ตลอดจนการชื่นชมจากต่างประเทศ ได้แก่ องค์การอนามัยโลก และสำนักข่าวอีกเป็นจำนวนมาก

โรงพยาบาลฯ ขอให้ทุกท่านได้มั่นใจว่า ภายใต้แนวทางปฏิบัติของโรงพยาบาลฯ ที่เพิ่มมาตรการการป้องกันที่สูงขึ้นกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) หน่วยควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) และกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลฯ มั่นใจว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ตลอดไป และโรงพยาบาลฯ มีความปลอดภัยและพร้อมบริการแก่ผู้ใช้บริการตามปกติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4