ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมงานมอบสื่อรณรงค์ความรู้ด้านวัคซีนป้องกันโรคในโครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชน “สร้างภูมิ เสริมรักษ์”จัดขึ้นโดยกรมการสรรพกำลังกลาโหมว่า แม้อัตราการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนในประเทศไทยจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีอุปสรรคเรื่องการเข้าถึงบริการด้านวัคซีน ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากความเข้าใจของประชาชนในพื้นที่ เช่น ความเข้าใจเรื่องภาษา และการขัดต่อความเชื่อตามหลักศาสนาที่นับถือ ประกอบกับการเกิดเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการยากลำบากมากขึ้นในการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชน เห็นได้จากการให้วัคซีนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็ก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งสร้างความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องภาษาอุปสรรคที่เป็นด่านแรกของการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องวัคซีนแก่ประชาชน
ทั้งนี้เพื่อลดอุปสรรคและข้อจำกัดเรื่องภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร ให้พี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีช่องทางในการเข้าถึงและได้รับข้อมูลเรื่องโรคระบาด โรคติดต่อที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว กระตุ้นให้เกิดความต้องการในการมารับบริการด้านวัคซีนเพื่อการควบคุมป้องกันโรคมากขึ้น กรมการสรรพกำลังกลาโหม ร่วมกับทีมแพทย์จากหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงสาธารณสุข ภาคเอกชนและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จึงได้ร่วมมือกันจัดทำสื่อเผยแพร่ความรู้ในโครงการ“สร้างภูมิ เสริมรักษ์”ทั้งที่เป็นภาษาไทยและภาษายาวี ครอบคลุมโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน และโรคประจำถิ่น รวม 14 โรค ได้แก่ โรคฉี่หนู,โรคชิคุนกุนยา,โรคไข้เลือดออก,โรคคอตีบ,โรคบาดทะยัก,โรคไอกรน,โรคโปลิโอ,โรคหัด,โรคคางทูม,โรคหัดเยอรมัน,โรคไข้สมองอักเสบ JE ,โรคตับอักเสบ B, วัณโรค และโรคไข้กาฬหลังแอ่น
โดยได้จัดทำสื่อดังกล่าวเป็น 3 รูปแบบ คือ 1.แผ่นพับ จำนวน 56,000 ใบ 2. แผ่นไวนิลขนาดเท่าโปสเตอร์ จำนวน 400 แผ่น 3. แผ่นบันทึกข้อมูล จำนวน 200 ชุดโดยความร่วมมือดังกล่าวนอกจากจะช่วยเสริมการให้บริการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานทุกฝ่ายมาร่วมมือกันในสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้วัคซีนควบคุมป้องกันโรค ซึ่งเป็นโครงการที่กระทรวงสาธารณสุขให้การสนับสนุนโดยเฉพาะวัคซีนที่อยู่ในกลุ่มแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของคนไทย เช่น โรคคอตีบ,โรคบาดทะยัก,โรคไอกรน,โรคโปลิโอ และโรคไข้สมองอักเสบ JE เป็นต้น และหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่สื่อนี้ในพื้นที่ไปแล้วจะมีการติดตามประเมินผล เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุง พัฒนางานในโครงการครั้งต่อไป
ด้านพันเอก โชคชัย ขวัญพิชิต ผู้อำนวยการศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแนภาคใต้ ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่าทางหน่วยงานได้ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาร่วมในคณะทำงานผลิตสื่อเผยแพร่ความรู้ตามโครงการ“สร้างภูมิ เสริมรักษ์” ในครั้งนี้ด้วย และได้รับสื่อดังกล่าวเพื่อนำไปเผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนและโรคที่ป้องกันด้วยวัคซีน โดยต้องยอมรับว่าประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการให้บริการด้านสุขภาพ เนื่องจากความเชื่อตามหลักศาสนา การถูกฝึกให้อดทนกับสิ่งที่เป็นอยู่ ทั้งที่บริการภาครัฐสามารถช่วยเหลือได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าการจัดทำสื่อในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจดีขึ้นได้เห็นความตั้งใจและความปรารถนาดีของภาคส่วนต่างๆที่ต้องการให้ประชาชนมีสุขภาพดี ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำงานแบบบูรณาการเพื่อให้งานบรรลุความสำเร็จให้ได้
พันโท ชัยวิชิต กิจนำชัย ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 11 กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 มีภารกิจรับผิดชอบในพื้นที่อำเภอแว้ง และ อำเภอสุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งในหน่วยจะมีชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน ประกอบด้วยทีมแพทย์เดินเท้าทำหน้าที่สำรวจสำมะโนประชากรเป็นทีมส่วนหน้าที่มีโอกาสพบผู้ป่วยก่อนที่หน่วยพยาบาลของรัฐจะเข้าไปถึง และหากไปพบผู้ป่วยก่อนจะมีการประสานกับหน่วยราชการในพื้นที่ให้จัดหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปให้การดูแลรักษา ส่วนสื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคต่างๆที่มีมากกว่า 10 โรค และมีการผลิตเป็นภาษายาวี เป็นภาษาท้องถิ่นที่พี่น้องในพื้นที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย จะเป็นตัวช่วยที่ดีของเจ้าหน้าที่ ให้สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือ สร้างความเข้าใจกับพี่น้องในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง สื่อดังกล่าวนี้จึงมีประโยชน์มากสำหรับทหารผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยจะนำสื่อที่ได้รับไปเผยแพร่ให้ถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการทำงานให้มากที่สุด
สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ : 02-5903196-9 หรือ www.nvco.go.th