พญ.กรุณา อธิกิจ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลปิยะเวท กล่าวว่า "เราสามารถพบคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูฝน เพราะเมื่อฝนตกบ่อยและมีน้ำขังถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายที่ดีก็ว่าได้ นับว่าโรคไข้เลือดออกเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของสาธารณสุขและวงการแพทย์อยู่ไม่น้อย เพราะ ในแต่ละปีมีผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สาเหตุของโรคไข้เลือดออกเกิดจากการที่ผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส Dengue ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ คือ เดงกี 1 เดงกี 2 เดงกี 3 และเดงกี 4 การติดเชื้อครั้งแรกมักจะมีอาการไม่รุนแรง แต่ถ้าติดเชื้อครั้งที่ 2 โดยที่เชื้อต่างสายพันธุ์กับครั้งแรก อาการมักจะรุนแรงถึงขั้นเลือดออกหรือช็อกได้ โดยมีพาหะนำโรคคือยุงลายที่เมื่อถูกยุงกัดเชื้อก็จะแพร่กระจายเข้าสู่คน ในช่วงที่มีไข้ หากยุงกัดคนในช่วงนี้ก็จะรับเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนอื่น เมื่อผู้ป่วยถูกยุงที่มีเชื้อกัดจะแสดงอาการประมาณ 5-8 วัน (ระยะฟักตัว) โดยที่ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีความรุนแรงของอาการแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ภูมิคุ้มกันของร่างกาย เป็นต้น โรคไข้เลือดออกนี้มีอาการทางคลินิกค่อนข้างชัดเจนคือ มีไข้สูงลอย (38.5 – 41 องศาเซลเซียส) ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ร่วมกับปวดตามกล้ามเนื้อมาก บางรายมีเลือดออกผิดปกติ เช่น ถ่ายดำ อาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง อาจพบมีตับโต คือมีอาการกดเจ็บบริเวณใต้ชายโครงขวา และมีภาวะช็อกในรายที่รุนแรง หากรักษาไม่ทันผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ในปัจจุบันยังไม่มียาหรือวัคซีนสำหรับป้องกันหรือต้านเชื้อไวรัสเดงกีโดยเฉพาะ แนวทางการรักษาจึงทำได้เพียงรักษาตามอาการและประคับประคองอาการเท่านั้น ซึ่งจะเป็นผลดีที่สุดต่อผู้ป่วยในระยะเริ่มต้น
ที่แพทย์วินิจฉัยพบ และได้รับการรักษาก่อนที่อาการของโรคจะรุนแรง สำหรับวิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคไข้เลือดออกคือ หลีกเลี่ยงการถูกยุงกัดเป็นสำคัญ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น แหล่งน้ำขังภายในบริเวณที่อยู่อาศัย สวมเสื้อผ้ามิดชิดหากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในเวลากลางคืน เป็นต้น และถ้าหากพบว่าตนเองหรือบุคคลในครอบครัวมีอาการต้องสงสัยว่าจะป่วยเป็นไข้เลือดออก คือ มีไข้เฉียบพลัน นานติดต่อกันเกิน 3 วัน ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ หรือไปซื้อยาลดไข้มารับประทานเอง เนื่องจากผู้ป่วยไข้เลือดออกส่วนใหญ่จะไปพบแพทย์ช้า จะไปเมื่อมีอาการมากแล้ว แนะนำว่าควรไปพบแพทย์โดยเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หัวใจ โรคไต เพราะต้องรับการรักษาอย่างทันท่วงที"
หยุดโรคไข้เลือดออก ปกป้องตัวคุณเองและคนที่คุณรักให้ห่างไกลไข้เลือดออก ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง สิ่งแวดล้อมดี อะไร ๆ ก็ดี