โดย นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า ระบบการแพทย์ฉุกเฉินไทยถือว่ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และในหลายๆ จังหวัดมีการดำเนินงานที่มีความก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้สามารถเข้าถึงการบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่มีคุณภาพ ได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามนโยบาย "เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ" แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินยังมีการดำเนินการอีกหลายเรื่องที่ต้องพัฒนา ทั้งเรื่องมาตรฐาน การให้บริการที่ครอบคลุมและทั่วถึง ดังนั้น สพฉ. จึงจัดการประชุมวิชาการระดับชาติขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอความคิดเห็นเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉิน และยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาคุณภาพการแพทย์ฉุกเฉินต่อรัฐบาลต่อไป
สำหรับการประชุมในครั้งนี้จะเน้นการพัฒนาระบบคุณภาพการแพทย์ฉุกเฉินไทยในหลายๆ ด้าน โดยมีหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจ อาทิ กลไกประชารัฐกับการขับเคลื่อนวงล้อคุณภาพการแพทย์ฉุกเฉิน , ประสบการณ์การจัดการภัยพิบัติในประเทศและต่างประเทศ , กลไกจัดการเพื่อขับเคลื่อนวงล้อความปลอดภัยทางถนน ลดเจ็บตาย , พลังท้องถิ่นกับคุณภาพการบริหารจัดการการแพทย์ฉุกเฉิน และ วงล้อคุณภาพระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมีวิทยกรทั้งจากไทยและต่างประเทศที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์ อาทิ ศ.นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ , นายแพทย์วิทยา ชาติบัญชาชัย โรงพยาบาลขอนแก่น , รศ.พญ.ยุวเรศมคซ์ สิทธิชาญบัญชา คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี , รศ.ดร.ศิริอร สินธุ คณะพยาบาลศาสตร์ ม.มหิดล , Dr. Philipp Mommsen ประเทศเยอรมัน , Mr. Malcolm Jame Finn ประเทศอังกฤษ , Eugene D. Osborn, FACHE United States Navy , Dr. Tatsuro Kai ประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ
นพ.อนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากการประชุมทางวิชาการแล้ว ภายในงานยังมีนิทรรศการการแพทย์ฉุกเฉิน ประกวดผลงานวิชาการ และกิจกรรมเวิร์คชอบ อาทิ การสาธิตการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ การใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ หรืออีเอดี ER Triage kit Thai Simulation training for Mass Casualty Incident สื่อสารบนเส้นทางนักกู้ชีพ#ถนนปลอดภัย การนำเสนอผลงานของหน่วยงานที่ได้รับรางวัลดีเด่นประจำปี อีกทั้งยังมีการมอบโล่รางวัล และเข็มเชิดชูเกียรติให้กับผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ฉุกเฉินด้วย สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.niems.go.th