เมื่อลูกน้อยเป็นโรคเท้าปุก...ต้องรีบปรึกษาแพทย์ก่อนสายเกินแก้

อังคาร ๑๒ เมษายน ๒๐๑๖ ๑๘:๕๔
"โรคเท้าปุก" เป็นการผิดรูปของเท้าในเด็กแรกเกิดที่พบบ่อยที่สุดชนิดหนึ่ง โดยมีโอกาสพบได้ประมาณ 1 ใน 1,000 ของเด็กแรกคลอดอาจแตกต่างกันไปเล็กน้อยตามเชื้อชาติ โดยรูปร่างเท้าจะมีลักษณะผิดรูปหลายอย่างร่วมกันแต่อาจสังเกตได้โดยมีลักษณะฝ่าเท้าบิดเข้าด้านใน ปลายเท้าโค้งเข้าและส้นเท้าจิกลง

โรคเท้าปุกนี้เป็นที่รู้จักและสนใจกันมาเป็นเวลานานแล้วโดยเราอาจแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ โรคเท้าปุกแท้และโรคเท้าปุกเทียม ซึ่งอาจแยกคร่าวๆ ได้โดยดูจากความรุนแรงของความผิดปกติที่พบ

โดยโรคเท้าปุกเทียม จะพบว่าความผิดรูปของเท้ามีลักษณะนิ่ม เพียงการดัดเบา ๆ ก็จะเห็นเท้าคืนรูปได้ เท้าปุกชนิดนี้เท้าไม่ได้มีความผิดปกติที่เกิดกับโครงสร้างของเท้าที่แท้จริง สาเหตุเชื่อว่าอาจเกิดจากการที่เด็กขดตัวอยู่ในท้องแม่เป็นเวลานานหรืออาจหาสาเหตุไม่พบเลย เท้าปุกแบบนี้สามารถหายเองได้หรืออาจใช้เพียงการเขี่ยเท้าเพื่อกระตุ้นให้เด็กขยับเท้าก็เพียงพอ

ส่วนโรคเท้าปุกแท้นั้น ความผิดปกติของรูปร่างเท้าจะรุนแรงกว่า เห็นได้ชัดเจนและแข็งไม่สามารถดัดให้เท้าคืนกลับมาอยู่ในรูปร่างปกติได้ เท้าปุกแบบนี้ไม่สามารถหายเองได้จำเป็นต้องได้รับการรักษา เพราะหากทิ้งไว้จะก่อให้เกิดความผิดปกติหรือความพิการถาวรเกิดขึ้นได้ การแยกเท้าปุกทั้งสองแบบออกจากกันจึงมีความสำคัญหากไม่แน่ใจควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อในเด็ก

วิธีการรักษาโรคเท้าปุก

การรักษาโรคเท้าปุกมีการพัฒนามายาวนาน มีทั้งการรักษาแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ในปัจจุบันวิธีการรักษาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคือคือการรักษาโดยวิธีแบบ Ponseti หลักของการรักษาแบบนี้คือการดัดแก้ไขความผิดรูปของเท้าทีละน้อยร่วมกับการใส่เฝือก โดยต้องเปลี่ยนเฝือกทุก 1-2 สัปดาห์และทำการดัดเท้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอาจจะประมาณ 6-8 ครั้งขึ้นกับความรุนแรง จนได้รูปเท้ากลับมาใกล้เคียงปกติ และมักจะต้องร่วมกับการเจาะยืดเอ็นร้อยหวายในการใส่เฝือกครั้งสุดท้าย หลังจากเท้าได้รูปที่ดีแล้วยังคงต้องใส่อุปกรณ์ช่วยดัดเท้าในเวลาที่เด็กนอนหลับต่ออีก 3-4 ปีเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ การรักษาโดยวิธีนี้ควรเริ่มรักษาให้เร็วที่สุดจะได้ผลดีกว่า

แม้อาจฟังดูแล้วยุ่งยากและใช้เวลาแต่ก็เป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีและมีผลเสียน้อยที่สุดโดยเฉพาะถ้าเทียบกับการผ่าตัดที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นแผลเป็นที่แข็งและเจ็บหรือความเสื่อมของข้อต่อในเท้าก่อนเวลา การผ่าตัดจึงจะทำในรายที่จำเป็นเท่านั้น

นพ. ปวริศร สุขวนิช

ศัลยแพทย์กระดูกและข้อในเด็ก

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๒๒ เสนา ตอกย้ำความสำเร็จ ในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
๐๙:๑๑ EP พร้อมเดินหน้ารับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ดันผลงานปี67โตทะยาน 4 เท่า หลังได้รับการสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก
๐๙:๓๘ BEST Express บุก บางบัวทอง เปิดแฟรนไซส์ขนส่งสาขาใหม่ มุ่งศึกษาพื้นที่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง ตอบความต้องการตรงจุด
๐๙:๑๗ ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด
๐๙:๓๗ CPANEL APM ร่วมต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวกัมพูชา พร้อมนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิต Precast จ.ชลบุรี
๐๘:๒๒ SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,725 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
๐๘:๐๑ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนมัธยม โชว์หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์
๐๘:๔๗ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รุ่นที่ 4 ขยายความรู้ทางการเงินสู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง
๐๘:๕๓ ส่องสัญญาณฟื้นตัว ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 รับผลบวกมาตรการรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ - ยอดสั่งสร้าง
๐๘:๕๕ RSP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 15 พ.ค. นี้