คร.ระบุ! ผู้เดินทางในพื้นที่ที่มีโรคระบาด เสี่ยงเจ็บป่วยง่าย เดินหน้าเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวแห่งที่ 9

อังคาร ๑๓ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๐:๔๐
คร.ระบุ! ผู้เดินทางในพื้นที่ที่มีโรคระบาด เสี่ยงเจ็บป่วยง่าย เดินหน้าเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวแห่งที่ 9 รับปรึกษา แนะวิธีดูแลสุขภาพระหว่างเดินทาง

กรมควบคุมโรค ระบุ! การเดินทางไปในพื้นที่ที่มีโรคระบาด เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เดินทางมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคและเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางได้ง่าย พร้อมเดินหน้าเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวแห่งที่ 9 ณ สำนักป้องกันควบคุมโรค เขตเมือง บริการให้คำปรึกษา แนะวิธีดูแลสุขภาพระหว่างเดินทาง บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค เฝ้าระวังทางระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค

วันนี้ (12 กันยายน 2559) นายแพทย์อำนวย กาจีนะอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวหลังเป็นประธานเปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ณ สำนักป้องกันควบคุมโรค เขตเมือง บางเขนกรุงเทพฯว่าการเดินทางและการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่มีผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เดินทาง ทำให้ผู้เดินทางเสี่ยงต่อเกิดโรคและภัยสุขภาพได้ง่าย ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลพบว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้เดินทางมีโอกาสเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง เกิดได้จากสุขภาพของผู้เดินทาง ได้แก่ วัย โรคประจำตัว ด้านพฤติกรรมการเดินทางได้แก่ กิจกรรม ที่พัก จากสภาพภูมิประเทศ ได้แก่ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดสูง พื้นที่ที่มีโรคประจำถิ่น รวมทั้งพื้นที่ที่มีโรคระบาดโดยเฉพาะโรคติดเชื้อไวรัสซิกาที่ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO)ประกาศให้การระบาดของไวรัสซิก้าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกแล้ว โดยความเสี่ยงต่อเกิดโรคและภัยสุขภาพจากการเดินทาง ท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ ที่สิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ ความสะอาดและระบบสุขาภิบาล การบริการทางการแพทย์ การป้องกันควบคุมโรคที่ไม่เพียงพอ รวมทั้งอุบัติเหตุก็เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวได้เช่นกัน

ในปี2559 นี้ การเปิดเสรีประชาคมอาเซียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ประชากรสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ สามารถเดินทางไปมาสะดวกขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศขยายตัวอย่างรวดเร็ว และไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นลำดับต้นๆของโลก ยืนยันได้จากข้อมูลปี 2558 ที่พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยจำนวน 29.9 ล้านคน คาดว่าในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 44.5 ล้านคน ในขณะที่ชาวไทยเองก็นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ปีละกว่า 3.4 ล้านคน นอกจากนี้ข้อมูลจากการศึกษายังพบอีกว่า ร้อยละ 55 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศกำลังพัฒนาจะเกิดปัญหาสุขภาพ โดยร้อยละ 8 ของนักท่องเที่ยวต้องพบแพทย์และพบว่าประมาณ 1 คนใน 100,000 คนเสียชีวิต ทั้งๆที่โรคและภัยสุขภาพเหล่านี้สามารถบริหารจัดการและป้องกันได้ ถ้ามีความรู้ความเข้าใจและการเตรียมตัวที่ดีพอ

นายแพทย์อำนวย กล่าวต่อไปว่า การจัดตั้งคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว จึงสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ในการให้คำปรึกษา การวางแผน รับคำแนะนำก่อนการเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและภัยอันตรายที่อยู่ปลายทาง และการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านร่างกาย อุปกรณ์ส่วนตัว และยารักษาโรค ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ปัญหาสุขภาพและการเจ็บป่วยของผู้เดินทางให้ลดน้อยลงได้

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้เร่งรัดการจัดตั้งคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 10 แห่ง โดยมีรูปแบบการให้บริการและการทำงานทั้งเชิงรุกและรับ ได้แก่

1.จัดบริการตามมาตรฐานงานคลินิกของกรมควบคุมโรค ให้บริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพก่อนและหลังเดินทาง การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ให้คำแนะนำการป้องกันโรค ตรวจสุขภาพและออกใบรับรองแพทย์ก่อนเดินทาง รวมถึงการรักษาโรคที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยว

2.การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาและการสอบสวนโรค

3.พัฒนาโปรแกรมข้อมูลงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงคลินิกเข้าด้วยกันเป็นเครือข่าย ทราบสถานการณ์ในพื้นที่ และในภาพรวมของประเทศ

4.จัดทำคู่มือการดำเนินงานสำหรับแพทย์ บุคลากรค้นคว้าหาความรู้ได้ง่าย 5.จัดระบบการให้คำปรึกษาก่อนเดินทางแบบออนไลน์

สำหรับคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กทม. นับเป็นแห่งที่ 9 ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ตึกสำนักป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง บางเขน กรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดไปแล้ว 8 แห่ง ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี/ ศูนย์วัณโรคเขต 1 จ.เชียงใหม่ /รพ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี/ รพ.หนองคาย /รพร.เชียงของ จ.เชียงราย/ รพ.นครพนม/ รพ.มุกดาหาร และที่ศูนย์หาดใหญ่นวรัตน์ จ.สงขลา และแห่งที่ 10 จะเปิดดำเนินการในวันที่ 13 กันยายน 2559 นี้ที่ รพ.เบตง จ.ยะลา

ด้านนายแพทย์สุเทพ เพชรมาก รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวแนะนำว่าก่อนเดินทางท่องเที่ยวผู้เดินทางควรหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปว่ามีสภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศเป็นอย่างไร รวมถึงตรวจสอบข่าวการระบาดของโรคในละแวกนั้นๆอย่างเช่นในบางประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสซิกาอยู่ขณะนี้ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติการ เจ็บป่วยที่เคยเป็นมาก่อน การตั้งครรภ์ ภูมิแพ้ต่างๆ ประวัติการใช้ยา และวัคซีนที่ควรได้รับเพื่อป้องกันโรคก่อนเดินทาง และควรรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงก่อนการเดินทาง ไม่ควรเดินทางขณะมีอาการป่วย ผู้ที่มีโรค ประจำตัวต้องเตรียมยาประจำตัว เอกสารทางการแพทย์ที่จำเป็นติดตัวไปด้วยเสมอ

ทั้งนี้ผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวในพื้นที่เขตกรุงเทพฯสามารถรับบริการให้คำแนะนำและรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค ได้ที่คลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ที่สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองบางเขน กทม. ในจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. เบอร์โทรศัพท์ 02 972 9606-9 หรือที่สถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา กรมควบคุมโรค 02 590 3726 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๑ PRM ร่วมงาน OppDay มั่นใจธุรกิจปี 67 สดใส
๑๗:๓๘ Bitkub Chain ร่วม OpenGuild และ Polkadot เปิดพื้นที่รวมตัว Community รับ SEA Blockchain Week 2024
๑๗:๔๙ HOYO SOFT AND SAFE ผู้ผลิตคอกกั้นเด็กคุณภาพสูง มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัย ได้รับการไว้วางใจจากประสบการณ์ลูกค้าโดยการบอกปากต่อปาก
๑๗:๓๗ แนวทางสร้างสมดุลระหว่าง อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และ คำมั่นสัญญาของ Generative AI
๑๖:๔๖ Maison Berger Paris เผยเครื่องหอมสำหรับบ้านรูปแบบใหม่ล่าสุด 'Mist Diffuser' ภายใต้คอลเลคชันยอดนิยมตลอดกาล Lolita
๑๖:๐๕ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (acute diarrhea)
๑๖:๓๙ JGAB 2024 จัดเต็มครั้งแรกในประเทศไทยและอาเซียน กับกิจกรรมและโซนจัดแสดงเครื่องประดับสุดพิเศษ พร้อมต้อนรับนักธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก เริ่ม 1 พ.ค. 67
๑๖:๒๘ สอศ. จับมือแอร์มิตซูบิชิ ดิวตี้ รับมอบเครื่องปรับอากาศในการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาด้านเครื่องปรับอากาศ
๑๖:๓๘ DKSH ประเทศไทย คว้า 8 รางวัลอันทรงเกียรติ ในงาน Employee Experience Awards ประจำปี 2567
๑๖:๑๖ เด็กล้ำ! นักศึกษา SE SPU คว้ารางวัลรองชนะเลิศ Best Paper ผลงานนวัตกรรมเนื้อสัตว์แพลนต์เบส สุดยอดแห่งความยั่งยืน