“คนเลือดบวก” หยุดเอดส์ได้ช่วยกันผลักดัน แคมเปญ Undetectable = Untransmittable

พุธ ๒๙ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๐๓
MED HUB NEWS - หลังจากเรานำเสนอสกู๊ปข่าว Undetectable = Untransmissable, U = U สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้มีการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ได้อย่างมากมาย เช่น แนวคิดการรณรงค์ เป้าหมาย เอชไอวีเป็นศูนย์ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานควบคุมเอดส์ในไทยจากองค์กรต่างประเทศ ส่วนฟีคแบคสำหรับการนำเสนอข่าวชิ้นนี้ มีเข้ามามากมายหลายอย่าง แต่เป็นเรื่องที่ควรมองข้าม เนื่องจากไม่มีสาระสำคัญอะไร โดยเราจะไม่กล่าวถึงองค์กรนี้ พร้อมทั้งมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไป

ทั้งนี้ ผลวิจัยเอชไอวี Undetectable = Untransmissable, U = U ไม่เจอ เท่ากับไม่แพร่ ไม่เป็นที่แพร่หลายในสังคมไทย ไม่มีสื่อไหนเกาะติดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งๆ ที่บุคคลสำคัญของ วงการควบคุมเอดส์ในไทย ยอมรับ และ ต้องการให้เป็นนโยบาย เคยมีการทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงกระทรวงสาธารณสุข ต้องยอมรับว่า "ประเทศไทย" เป็นหนึ่งประเทศที่ชอบปลูกฝังความคิดแง่ลบไว้ก่อน จึงทำให้การทำงานในด้านต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการนำงบไปใช้จ่าย โดยไม่คุ้มค่า เช่น สปสช. นำเงินจำนวนมากไปใช้ในเรื่องเอดส์ หลักร้อยล้าน ซึ่งงบประมาณตรงนี้ต้องบริหารในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ ขาดทุน ตามที่เป็นข่าวการประกาศ หยุดการแพร่ระบาดของเอดส์ ไม่ว่าจะเป็นนิยามของคำว่า "ศูนย์" หรือ "ปลอดจากโรคเอดส์"

โดยมีการส่งเสริมการป้องกันในกลุ่มคนทั่วไป มีโครงการแจกยาป้องกันการติดเชื้อ

ทราบไหมว่า โครงการแจกยาป้องกันการติดเชื้อ เราต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ? ประเด็นความคุ้มค่าของการป้องกัน นำไปสู่คำถามว่ารัฐบาลจะสามารถอุดหนุนการรักษาที่มีต้นทุนสูงได้หรือไม่ การแจกยาป้องกันในกลุ่มคนเลือดลบ งบส่วนนี้ สามารถกระจายไปกลุ่มต่างๆ เช่น สุขภาพแม่และเด็ก การบาดเจ็บ ตลอดจนโรคไม่ติดต่อ

ขณะเดียวกันผลวิจัยเอชไอวี Undetectable = Untransmissable, U = U ไม่เจอ เท่ากับไม่แพร่ เป็นการทำงานในกลุ่มคนเลือดบวก ที่มีปริมาณ ตัวเลขในระบบชัดเจน

การควบคุมกลุ่มคนเลือดบวก ง่ายกว่า การป้องกันคนปกติ เสมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตน

ไม่แปลกใจว่า กลุ่มเสียผลประโยชน์จากกองทุนเอดส์โลก เหลือเวลาไม่กี่ปี จะถอนงบกลับประเทศ จะออกมาโวยวาย

กระทั่งมีกลุ่มบิดเบือนผลวิจัยเอชไอวี Undetectable = Untransmissable, U = U ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ เป็น "ไม่ตรวจ เท่ากับไม่เจอ" หรือ ย้อนกลับไปใช้นโยบายเดิมหรือ ? ไม่ใช้ถุงยางอนามัยแล้วเหรอ

การนำเอา แคมเปญ Undetectable = Untransmissable, U = U ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ มีรายละเอียดมากมาย ซึ่งถุงยางอนามัยเป็นเรื่องสำคัญมาก

ที่ผ่านมา กลุ่มคนกลุ่มนี้โดนหน่วยงานรัฐออกประกาศยกเลิก ระงับ ออกประกาศแจ้งให้ทราบไม่ควรเชื่อถือเนื้อหาบนเว็บไซต์เด็ดขาด และ ทางหน่วยงานรัฐไม่รับรองความถูกต้องด้วย แต่ประชาชนที่ไม่ได้อ่านประกาศยังสับสน เนื่องจากยังใช้แบบเดิม แต่เปลี่ยนเป็นอิสระ ไม่เกี่ยวข้องกับไทย

เราเดินทางนี้มากว่า 20 ปี แต่ปัญหาโรคเอดส์ยังมีปัญหาด้านต่างๆ อยู่อีกมาก แม้จำนวนผู้ติดโรคเอดส์รายใหม่มีจำนวนลดลง การเสียชีวิตลดลง แต่เป็นการลดลงในระดับที่ไม่น่าพอใจ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาด้วยการใช้งบประมาณการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี เน้นใน คนเลือดลบ แน่ใจแล้วหรือว่า คือ "กุญแจไปสู่ความสำเร็จ"

เพราะแนวคิดใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ มองว่า การทำให้สังคม ชุมชนเข้มแข็งขึ้น เป็นกุญแจสำคัญ ที่จะยกระดับความรู้ความเข้าใจให้เกิดขึ้น ในหมู่คนที่ติดเชื้อ หรือ คนเลือดบวก ไม่ว่าจะเป็น สิทธิทางกฎหมาย ความรู้ความเข้าใจ จำเป็นต้องนำมาปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง

และที่สำคัญ การพูดคุยกับชุมชน การใช้กลไกของ อสม.4.0 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเปลี่ยนทัศนคติ การตีตรา วิธีการปฏิบัติต่อผู้ป่วยอย่างเท่าเทียมกัน เราเชื่อว่าสามารถหยุดการแพร่กระจายของเอชไอวีได้

ปัจจุบันนี้ เราสามารถป้องกันการติดต่อของไวรัสเอดส์ และผนวกกับการรักษาที่มีอยู่แล้ว เอดส์เป็นสภาวะที่สามารถควบคุมได้ เราห่างไกลมากแล้วจากวันเวลา ที่การปฏิบัติตอบโต้โรคที่น่ากลัว

ปี 2562 ถือเป็นครั้งแรก ในห้วงเวลาการระบาดของโรคเอดส์นี้ ย้ำว่าเรามีโอกาสมากที่จะควบคุมเอชไอวีได้ ด้วยการจัดการแก้ไขกฎหมาย โดยใช้การมีส่วนร่วมของคนเลือดบวกมาเป็น กลไกการทำงาน และการกำหนดนโยบายใหม่ๆ

หากเราใช้นโยบาย เน้นความสำคัญต่อผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี หรือ บรรดาคนเลือดบวก จะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศหรือ คนผลเลือกปกติ สามารถลดการติดเชื้อเอชไอวี และความเสี่ยงอื่นๆ จากกลุ่มคนเลือดบวกได้อย่างดี

ถ้าเราทุ่มเททำงาน สร้างความเท่าเทียมกันในหมู่คนเลือดบวก จะทำให้เป้าหมายสำเร็จได้เร็วกว่าอีกแนวทางหนึ่งแน่นอน

หากเราเปลี่ยนแปลงสังคม เริ่มจากวิธีการปฏิบัติต่อคนเลือดบวก อย่างเท่าเทียมกัน การยุติปัญหาเอดส์ ด้วยการใช้กลไกผู้ติดเชื้อ ไม่แพร่เชื้อ และ การแก้ปัญหาด้วยการเอาคนเลือดบวกเป็นจุดเริ่มต้น ไม่แพร่เชื้อให้คนปกติ

ดังนั้นแนวคิดนี้จึงมีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากผู้บริหารกองทุนยุคใหม่ ที่มองเห็นแสงสว่าง ภายใต้นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ งานมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร แต่จะเร็วกว่านี้ ถ้าช่วยกันทำความเข้าใจกับสังคม คนเลือดบวกมีส่วนร่วมกับทางเพจ Sasook และ เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com เรามาเป็นส่วนสำคัญ "ผลักดัน" U=U : Undetectable = Untransmittable

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com เชื่อว่า "หยุดเอดส์ได้" และ ที่สำคัญ ช่วยกันคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้ "คนเลือดบวก" อีก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ