ครั้งแรกในไทย กับ'Smart Pay: Smart Life' มิติใหม่แห่งวงการ Hospital and Health care โรงพยาบาลเวชธานี จับมือกับ GB Prime Pay เปิดบริการQR Cash Payment

จันทร์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๐๙:๑๒
ครั้งแรกในไทย กับ'Smart Pay: Smart Life' มิติใหม่แห่งวงการ Hospital and Health care โรงพยาบาลเวชธานี โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของไทย จับมือกับ GB Prime Pay (FinTechที่กำลังเป็นที่จับตามอง) เปิดบริการ QR Cash Payment ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพียงสแกนจ่ายจบ กลับบ้านได้ทันที พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันนี้

ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา ผู้อำนวยการปฏิบัติการ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ทางโรงพยาบาล มีความพร้อมในการรองรับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการด้านสุขภาพด้วยคุณภาพสูงสุด มีการเลือกสรรเทคโนโลยีต่างๆที่จะมาช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการแจ้งพิกัดคนไข้ฉุกเฉินที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่รถโรงพยาบาลสามารถเข้าไปรับคนไข้ได้รวดเร็วในภาวะฉุกเฉิน โดยญาติไม่ต้องบอกทางแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลฯ ได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่นิยมการชำระค่าบริการและสินค้าด้วย QR Code มากขึ้น จึงร่วมมือกับ GB Prime Pay เปิดบริการรับชำระเงินรูปแบบ Smart Pay สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าแก่ผู้ใช้บริการ เพิ่มความสะดวก ลดขั้นตอน ประหยัดเวลา โดยชำระเงินรูปแบบ QR ที่สามารถชำระค่าบริการได้ทันที ณ จุดให้บริการ หลังเสร็จสิ้นการรักษา หรือรับคำปรึกษา ไม่ต้องติดต่อจุดบริการรับชำระเงินรูปแบบเดิมอีกต่อไป

โดยการชำระเงินผ่าน QR Code นี้ เป็นการชำระเงินผ่านทาง Thai QR ซึ่งตัว QR นี้ เป็นไปตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย มีความน่าเชื่อถือ ผู้ใช้บริการสามารถชำระเงินด้วยการสแกน QR Code ผ่านแอพพลิเคชั่นของสถาบันการเงินหลักของไทย อาทิเช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรี ธนาคารออมสิน ธนาคารธนชาติ และธนาคารทหารไทย หากผู้ใช้บริการต้องการรับใบเสร็จการชำระเงินฉบับเต็ม สามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับเพิ่มเติมได้ โดยโรงพยาบาลจะจัดส่งในช่องทางที่ผู้ใช้บริการสะดวก ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ หรือทางไปรษณีย์ เป็นต้น โดยในเบื้องต้นศูนย์ที่เปิดบริการระบบ Smart Pay รับชำระค่าบริการด้วย QR Code นั้น ประกอบด้วย ศูนย์ตรวจสุขภาพ ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู และศูนย์ผิวหนังเลเซอร์และความงาม เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการที่มารับคำปรึกษาและกลับบ้านได้ทันที และมีแผนในการพัฒนาต่อยอดเปิดบริการ Smart Pay ในศูนย์อื่นๆต่อไปในอนาคต

ด้านนางสาวสศิรา อภิรัชเหมภาส กรรมการบริหารบริษัทโกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางการใช้ช่องทางการชำระเงินออนไลน์มากขึ้น ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ การสแกน QR cash payment หรือชำระด้วยบัตรเครดิตออนไลน์ บนมือถือ สังคมไทยมีแนวโน้มที่ก้าวสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้ ทำให้ภาคธุรกิจปรับตัวเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทางทีมผู้บริหารโรงพยาบาลฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับพฤติกรรมผู้บริโภค จึงร่วมมือกับ GB Prime Pay เปิดให้บริการระบบ Smart Pay รับชำระเงินด้วย QR Payment เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องสมัคร หรือ ดาวน์โหลด แอพพิเคชั่นใดๆเพิ่มเติม เพียงใช้ Mobile Banking ที่ผู้ใช้บริการมีอยู่แล้วบนมือถือ และนำแอปพิเคชั่นของธนาคารชั้นนำ สแกน QR เพื่อชำระเงินค่าบริการได้ทันที

โดยการทำรายการผ่านทาง QR Payment ทุกอย่างจะถูกแจ้งเตือนหรือยืนยันด้วยระบบอิเล็กทอร์นิกส์แทนทั้งหมด โรงพยาบาลจะรับทราบทันที หลังจากการชำระเงิน โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องแสดงหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และจะได้รับหลักฐานการชำระเงินจากธนาคารเจ้าของบัญชีที่ใช้ในการสแกน QR เพื่อยืนยันรายการชำระเงินดังกล่าว ขณะเดียวกันหลักฐานการชำระเงินจะแสดงการแจ้งเตือนว่าผู้ใช้บริการได้ชำระเงินให้แก่ GB Prime Pay เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ในปีหน้า GB Prime Pay มีแผนเตรียมเปิดการให้บริการรูปแบบใหม่ล่าสุดการชำระเงินด้วย QR CREDIT CARD PAYMENT เป็นการชำระเงินโดยสแกนจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้โดยที่ไม่ต้องพกบัตรเครดิตอีกต่อไป

ทั้งนี้โรงพยาบาลเวชธานี เป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ ให้บริการดูแลสุขภาพขั้นตติยภูมิ ตั้งอยู่บนถนนลาดพร้าว มีเตียงผู้ป่วยมาตรฐาน 263 เตียง โดยมุ่งมั่นมอบบริการนวัตกรรมด้านสุขภาพด้วยมาตรฐานสากล ผ่านการรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International) แสดงถึงมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยอันเป็นเลิศและเป็นสากล มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของแนวทางการรักษาล่าสุดในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพการรักษารายโรค CCPC (Critical Care Program Certificate) จากสหรัฐอเมริกา ใน 5 รายโรคด้วยกัน ได้แก่ 1.) การรักษาผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2 2.) การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม 3.) การดูแลรักษาผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว 4.) ไวรัสตับอักเสบบี 5.) การผ่าตัดกระดูดสันหลัง Lumbar Spine สำหรับข้อมูลอื่น ๆ สามารถดูได้ที่ www.vejthani.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4