ออฟฟิศซินโดรม โรคใกล้ตัวคนทำงาน โดย แพทย์หญิงสุคนธมาศ เสรีสิทธิธรรม แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระรามเก้า

ศุกร์ ๐๗ มิถุนายน ๒๐๑๙ ๐๙:๔๙
หากคุณเป็นมนุษย์ออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานในออฟฟิศทั้งวัน การนั่งทำงานเฉยๆ เป็นเวลานาน หรือ การต้องยกของหนักซ้ำๆเดิมๆ ไม่มีการออกกำลังกาย หรือขยับร่างกายเปลี่ยนอิริยาบถ จนเริ่มมีอาการปวดตามหลัง ไหล่ คอ ปวดหัว ปวดตา แล้วล่ะก็ อย่าได้มองข้าม เพราะอาการเหล่านี้ล้วนเป็นอาการของโรค "ออฟฟิศซินโดรม" ซึ่งถ้าไม่บำบัดรักษา หรือป้องกันตั้งแต่ต้น ก็อาจกลายเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพในภายหลังได้

แพทย์หญิงสุคนธมาศ เสรีสิทธิธรรม แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระรามเก้า กล่าวว่า สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการนั่งทำงานในอิริยาบถเดิมนานๆ และไม่มีการยืด ขยับปรับเปลี่ยนท่าทาง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือเกิดจากการนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป การเพ่งใช้สายตามากๆ บวกกับรังสีจากจอภาพ ทำให้เกิดอาการปวดหัวปวดตาได้ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น ออฟฟิศแออัด อากาศไม่ถ่ายเท โต๊ะเก้าอี้ไม่เหมาะกับสรีระ เป็นต้น นอกจากนี้การทำงานที่หนักเกินไป จนทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน บวกกับสังคมในที่ทำงานเป็นพิษ ทำให้เกิดความเครียดสะสม สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างยิ่ง และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา หรือไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมา เช่น เสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด และแขนขาอ่อนแรง ถ้ารุนแรงมากอาจทำให้กล้ามเนื้อหด ยึด ตึง เสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า อันมาจากความเครียด ความกดดัน และบรรยากาศไม่ดีในที่ทำงาน นอกจากนี้ โรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง จากการทานอาหารจุบจิบในเวลาทำงาน และไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็ยังส่งเสริมให้อาการของออฟฟิศซินโดรมแย่ลงด้วย

ทั้งนี้การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเอง เช่น หากเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า ควรพักการทำงานเพื่อผ่อนคลายร่างกายและสมอง เช่น ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินไปสูดอากาศด้านนอกบ้าง ไม่ควรนั่งทำงานติดกันนานเกินไป และหมั่นออกกำลังกาย เพื่อยืดและคลายกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน นอกจากจะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ป้องกันเอ็นและข้อยึดแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด และเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายได้อีกด้วย นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใน

การทำงาน เช่น เปลี่ยนโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ ทำความสะอาดออฟฟิศให้โล่งและอากาศถ่ายเทมากขึ้น ก็สามารถช่วยให้บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลายขึ้น และหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อยังไม่ดีขึ้น ปวดเรื้อรัง ปวดจนนอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ มีแขนขาอ่อนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อรับการตรวจประเมินรักษาด้วยยา และการกายภาพบำบัดร่วม 3-7 ครั้ง แล้วแต่สาเหตุและความรุนแรงของโรค อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่แน่ใจว่ากำลังเผชิญกับอาการออฟฟิศ ซินโดรม หรือเป็นอาการปวดทั่วๆไป เนื่องจากมีการปวดเหมือนกัน แต่สาเหตุต่างกัน และหากดูแลตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจประเมินและรักษาป้องกันเพื่อไม่ให้กลายเป็นโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เพราะจะทำให้สุขภาพทั้งกายและจิตใจแย่ลง และใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นานมากขึ้นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก