ไขข้อสงสัย? สารพัดปัญหาเบาหวาน ที่หลายคนอยากรู้

พฤหัส ๑๔ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๔:๑๘
Q: สังเกตตัวเองอย่างไร?... ว่าเป็นเบาหวาน

ปัจจุบันพบผู้ป่วยเบาหวานในคนอายุน้อยลงเนื่องจากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรือพบในผู้สูงอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีภาวะดื้ออินซูลินเกิดขึ้นได้ตามอายุ ผู้ป่วยเบาหวานจะมีอาการ 3 แบบใหญ่ๆ ที่ตรวจพบได้

แบบที่ 1ดื่มน้ำเยอะ กินเก่งแต่น้ำหนักตัวลดลง ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน บางคนตื่นมาปัสสาวะทั้งคืน กลุ่มนี้จะรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง ในช่วงแรกๆ อาจจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้แต่ในระยะยาวผู้ป่วยกลุ่มนี้จะผอมลง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้ก็จะสลายไขมันเป็นพลังงานแทนทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้ผอมลงเรื่อยๆ

แบบที่ 2ไม่มีอาการอะไรเลยแต่มาตรวจพบระหว่างตรวจร่างกายซึ่งพบได้บ่อย

แบบที่ 3 มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น การติดเชื้อ เป็นแผลเรื้อรังแล้วไม่หาย

เมื่อไปตรวจก็พบว่ามีเบาหวานเกิดขึ้น

Q: เป็นเบาหวานแล้วรักษาหายไหม?

เบาหวานจัดว่าเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ต้องการดูแลและการรักษาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะเมื่อเป็นเบาหวานแล้วส่วนใหญ่ต้องอาศัยระเบียบวินัยในการดูแลตัวเองทั้งการกินอาหาร การออกกำลังกาย แล้วก็การกินยา

Q:ทำไม? ผู้ป่วยเบาหวานถึงต้องไปพบคุณหมอบ่อยๆ

การที่ต้องมาพบแพทย์สม่ำเสมอนั้น เพราะว่าเราทานอาหารแต่ละวันไม่เท่ากันและปริมาณน้ำตาลที่ทานเข้าไปก็ไม่เท่ากัน แต่ปริมาณยาต้องปรับตามน้ำตาล เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติให้มากที่สุด เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นจากการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงนานๆ

โดยแพทย์จะใช้โปรแกรมการตรวจเบาหวาน ที่มีไว้สำหรับตรวจดูคุณภาพการควบคุมเบาหวานที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยควบคุมเบาหวานได้ดีมากน้อยแค่ไหน น้ำตาลในเลือดเป็นอย่างไร มีโรคแทรกซ้อนอื่นที่เกี่ยวกับเบาหวานเกิดขึ้นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงตลอดจนโรคแทรกซ้อนเรื้อรังที่อาจเกิดขึ้นจากการเป็นเบาหวานมานาน

ซึ่งจะเกิดกับอวัยวะหลายอย่าง เช่น ตา ไต หัวใจ สมอง หรือเส้นเลือดที่ปลายมือ ปลายเท้า ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาทำให้เกิดแผลเรื้อรังได้

การตรวจที่ว่านี้คือ การตรวจฮีโมโกลบิน เอวันชี (Hb A1C) เป็นการตรวจเพื่อดูระดับน้ำตาลที่จับอยู่กับเม็ดเลือดแดง ตรวจว่าที่ผ่านมาย้อนหลังไป 3 เดือน ระดับน้ำตาลในเลือดทั่วไปปกติดีหรือไม่ ทำให้ทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือดแต่ละระดับที่จะส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการดูแลตัวเองของผู้ป่วยนั่นเอง

Q: รักษาเบาหวานไม่ยากอย่างที่คิด… จริงหรือ?

การรักษาเบาหวานมีหลายวิธี สิ่งแรกคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ได้แก่ การคุมอาหารและการออกกำลังกายเพราะเป้าหมายของการรักษาเบาหวานคือ การพยายามควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติให้มากที่สุดเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น วิธีต่อมาคือการทานยา ซึ่งยาที่ใช้ในการควบคุมเบาหวานปัจจุบันมียาหลายกลุ่มที่ทำให้น้ำตาลในเลือดปกติได้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละรายไป

ทั้งนี้ผู้ป่วยเบาหวานจะต้องมีความรู้สึกที่ดีกับการรักษาตัวอยู่ตลอดเวลา ปฎิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ปฏิเสธการทานยา การควบคุมอาหาร หรือการออกกำลังกายควบคุมเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติให้มากที่สุดและให้นานที่สุด ก็จะช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4