เมืองย่าโม ยกระดับการดูแล “สุขภาพจิต” ผู้ต้องขังกว่า 15,000 คน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนความยาก เป็นง่าย

จันทร์ ๐๒ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๐๙
รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ ลงนามความร่วมมือยกระดับการดูแลสุขภาพจิตผู้ต้องขังใน จ.นครราชสีมาที่มี 15,000 กว่าคนให้ทั่วถึง ปลอดภัย ระหว่าง 6 เรือนจำ รพ.เครือข่าย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสปสช.เขต 9 ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เปลี่ยนจากความยากให้เป็นง่าย โดยใช้ระบบจิตแพทย์ทางไกลและโปรแกรมแอพพลิเคชั่นพิเศษ ผู้ต้องขังที่มีปัญหาทุกคนจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยจิตแพทย์ โดยไม่ต้องออกนอกเรือนจำ และดูแลต่อเนื่องจนอาการทุเลา ล่าสุดมีผู้ต้องขังป่วยทางจิต 258 คน
เมืองย่าโม ยกระดับการดูแล สุขภาพจิต ผู้ต้องขังกว่า 15,000 คน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนความยาก เป็นง่าย

ณ เรือนจำกลางนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการดำเนินการ “จัดระบบการแพทย์จิตเวชทางไกล หรือเทเล ซายไคตรี้ (Tele psychiatry) เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพจิตผู้ต้องขัง ร่วมกันระหว่างหน่วยงานในจ.นครราชสีมา 5 ฝ่ายได้แก่ นายแพทย์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนคราชสีมา - ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)คู่เครือข่ายเรือนจำ 6 แห่ง ได้แก่รพ.มหาราชนครราชสีมา,รพ.เทพรัตน์นครราชสีมา,รพ.บัวใหญ่,รพ.ปากช่องนานา,รพ.สีคิ้ว และรพ.เดอะโกลเด้นท์เกท - ผู้อำนวยการรพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ -ผู้บัญชาการ/ผู้อำนวยการเรือนจำ 6 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำกลางนครราชสีมา,เรือนจำกลางคลองไผ่, เรือนจำ อ.สีคิ้ว,เรือนจำอ.บัวใหญ่ ,ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมาและทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก อ.สีคิ้ว-ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 9 จ.นครราชสีมา

นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯกล่าวว่า ผู้ต้องขัง เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยทางจิตหรือมีปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยทางจิตมาก่อนต้องโทษ จะเสี่ยงต่อการกลับมาป่วยซ้ำได้สูง จากวิกฤติชีวิตของการต้องโทษ จะกระตุ้นให้เกิดความเครียด ทำให้อาการทางจิตกำเริบ การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการสนองนโยบายกรมสุขภาพจิตและจ.นครราชสีมา ให้เป็นไปตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพจิตผู้ต้องขังในเรือนจำที่อยู่ในจ.นครราชสีมาทั้งหมด 6 แห่ง รวม 15,707 คน ซึ่งในปี 2563 นี้มีผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตอยู่ระหว่างการรักษาฟื้นฟูรวม 258 คน คิดเป็นร้อยละ 1.6 ของผู้ต้องขังทั้งหมด โดยป่วยเป็นโรคจิตเภท ซึ่งมีอาการหูแว่ว ประสาทหลอน มากที่สุดร้อยละ 45 รวมจำนวน 116 คน รองลงมาคือป่วยโรคซึมเศร้าร้อยละ 40 รวมจำนวน 103 คน และโรคจิตจากสารเสพติด เช่นสุรา ยาบ้า จำนวน 5 คน และอื่นๆเช่นพฤติกรรมก้าวร้าว จำนวน 34 คน

นายแพทย์กิตต์กวีกล่าวต่อว่า ความร่วมมือในการยกระดับการดูแลผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพจิตหรือเจ็บป่วยจากโรคทางจิตระหว่างหน่วยงานในครั้งนี้ เน้นให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการตรวจรักษาจากจิตแพทย์อย่างทั่วถึง ปลอดภัย และได้รับการดูแลรักษาอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องสม่ำเสมอจนถึงหลังพ้นโทษไปแล้ว โดยรพ.จิตเวชฯได้พัฒนาระบบบริการโดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วย คือ ระบบการแพทย์จิตเวชทางไกลหรือเทเล ซายไคตรี้ (Tele psychiatry) เพื่อลดข้อจำกัดต่างๆ เปลี่ยนจากความยาก ให้ง่ายขึ้น เพิ่มความสะดวกปลอดภัยให้ทุกฝ่าย และพัฒนาโปรแกรมแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้เชื่อมโยงการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังเป็นการเฉพาะ(Prison Care Transition) จะเป็นฐานข้อมูลการดูแลผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่สมบูรณ์แบบ โดยจะเชื่อมต่อโปรแกรมนี้ที่สถานพยาบาลของเรือนจำ 6 แห่ง กับห้องฉุกเฉินของรพ.แม่ข่ายที่ดูแลเรือนจำ และที่รพ.จิตเวชฯ

“ในโปรแกรมแอพพลิเคชั่นนี้ จะมีระบบการตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพจิตผู้ต้องขังรายใหม่ ระบบการรักษา และระบบเฝ้าระวังติดตามผลการใช้ยารักษาผู้ป่วย โดยในระบบการตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพจิตจะเน้น 5 โรคหลักที่พบบ่อยได้แก่ โรคจิต โรคซึมเศร้า โรคติดสุราเรื้อรัง โรคจิตจากสารเสพติด และความเครียด หากพบว่ารายใดมีปัญหา จะใช้ระบบจิตแพทย์ทางไกล ซึ่งใช้ระบบวิดีโอคอล(Video call) โดยทีมจิตแพทย์ของรพ.เครือข่ายหรือรพ.จิตเวชฯ ทำการตรวจวินิจฉัยรักษาผู้ต้องขังในระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องพาผู้ต้องขังออกนอกเรือนจำ และดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องจนอาการทุเลา” นายแพทย์กิตต์กวีกล่าว

นายแพทย์กิตต์กวีกล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ได้ติดตั้งระบบจิตแพทย์ทางไกลและโปรแกรมแอพพลิเคชั่นที่เรือนจำ 2 แห่งแล้ว คือ 1.ที่เรือนจำกลางนครราชสีมากับรพ.จิตเวชฯ 2.ที่เรือนจำกลางคลองไผ่ และทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก อ.สีคิ้ว กับรพ.ปากช่องนานา อ.ปากช่อง อยู่ระหว่างขยายผลไปที่เรือนจำอ.สีคิ้ว อ.บัวใหญ่ และ ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา โดยจะขยายผลใช้ระบบเดียวกันนี้ในอีก 3 จังหวัดที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 9 ด้วย คือชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์

สำหรับข้อดีของโปรแกรมแอพพลิเคชั่นนี้ ใช้งานง่าย สามารถทำงานได้ขณะที่ไม่มีสัญญานอินเตอร์เน็ต ช่วยลดความเสี่ยงในการเดินทางของเจ้าหน้าที่เรือนจำ และลดระยะเวลาให้บริการในสถานพยาบาล

เมืองย่าโม ยกระดับการดูแล สุขภาพจิต ผู้ต้องขังกว่า 15,000 คน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนความยาก เป็นง่าย เมืองย่าโม ยกระดับการดูแล สุขภาพจิต ผู้ต้องขังกว่า 15,000 คน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนความยาก เป็นง่าย เมืองย่าโม ยกระดับการดูแล สุขภาพจิต ผู้ต้องขังกว่า 15,000 คน ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เปลี่ยนความยาก เป็นง่าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4
๑๖:๐๘ DITP GIT ปลื้ม!!! งาน Bangkok Gems ครั้งที่ 69ประสบความสำเร็จล้นหลาม ผลจากความเข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวของภาครัฐ-เอกชนร่วมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก
๑๖:๔๓ ผถห. SISB อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 อัตรา 0.31 บ./หุ้น
๑๖:๓๘ วว. ให้บริการทดสอบของอัตราส่วนไอโซโทปของธาตุ ด้วยเครื่องไอโซโทปเรโชแมสสเปคโตรเมตรี
๑๖:๑๘ Open Banking ช่วยสร้างคุณค่าบริการทางการเงิน: ทิศทางธุรกิจของภาคธนาคารและสถาบันการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๑๖:๒๑ NPS จิตอาสาร่วมปรับภูมิทัศน์ โครงการสร้างความสามัคคีทำความดีเพื่อแผ่นดิน
๑๖:๐๗ NPS ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาล ต.เขาหินซ้อน