แพทย์ แนะรัฐเร่ง“สร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์” หลังจบโควิด-19 ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร

จันทร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๐๒๐ ๑๒:๒๒
สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 แม้จะทำให้ประเทศไทยบอบช้ำ ระบบเศรษฐกิจเสียหายถึงขั้นรุนแรงที่สุดเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก จนเปรียบเสมือนสงครามโลกครั้งที่3 แต่...ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติที่ท้าทายครั้งนี้ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นว่า “ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุข การแพทย์ การพยาบาลและการดูแลรักษาที่ดีที่สุด” เป็นอันดับสองรองจากจีน จนกลายเป็นประเทศเป้าหมายของบรรดามหาเศรษฐี และนักธุรกิจจากทั่วโลกที่ต้องการย้ายเข้ามาพำนักหลังจบสถานการณ์โควิด-19
แพทย์ แนะรัฐเร่งสร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์ หลังจบโควิด-19 ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร

อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย แนะรัฐควรเร่ง “สร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์” มุ่งส่งเสริม “กลุ่มธุรกิจบริการด้านการแพทย์” จุดแข็งใหม่ที่ทั่วโลกกำลังจับตาจาก “Medical standard” สู่ “ Medical Business” อย่างเป็นรูปธรรมและสร้างสรรค์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ ( Medical technology industrial ) อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ อาหารเสริม รวมถึงเครื่องสำอาง เพื่อกู้วิกฤติเศรษฐกิจและยกระดับประเทศให้ก้าวสู่การเป็น “อุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร”

นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน และอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย แสดงความเห็นว่า ประเทศไทยมีระบบการแพทย์ที่ดี มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งเป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติมานาน แต่ขาดการส่งเสริมด้านการตลาด การทำให้เป็นธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น Medica hub , Surgery hub, Medical tourism หรือ Heath & wellness ฯลฯ โดยพัฒนาควบคุ่ไปกับการสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์ ( Medical technology industrial ) อุตสาหกรรมยา เวชภัณฑ์ อาหารเสริม รวมถึงเครื่องสำอาง เพื่อเป็นการสร้างอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศแล้ว ในอนาคตยังสามารถส่งออกสินค้าเหล่านี้เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกทางด้วย

ทั้งนี้ อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย ได้แนะแนวทางการสร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์ เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าหลังยุคโควิด-19 ไว้ดังนี้

พัฒนาจาก Medical standard ให้เป็น Medical Business พร้อมส่งเสริมแนวทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศให้กับธุรกิจบริการทางการแพทย์ เพื่อประกาศจุดแข็งของวงการแพทย์ไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ ทั้งด้าน การรักษาโรค การดูแลสุขภาพและผู้สูงอายุ รวมถึง ด้านศัลยกรรมตกแต่งความงาม หนึ่งในธุรกิจบริการทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงของไทย จากข้อมูลการสำรวจความนิยมการทำศัลยกรรมทั่วโลก ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ หรือ ISAPS ปี 2018 พบว่าประเทศไทยติดอันดับ Top 10 และครองแชมป์ประเทศที่มีชาวต่างชาติเข้ามาทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก โดยตลาดศัลยกรรมความงามของไทยมีมูลค่าสูงถึง 45,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่ารวมของตลาดศัลยกรรมทั่วโลก 21 ล้านล้านบาท และปี 2019 ที่ผ่านมาคาดการณ์ว่าตลาดศัลยกรรมความงามในประเทศไทยเติบโตสูงขึ้น และมีมูลค่าประมาณ 55,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญที่มีช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย พัฒนาต่อยอดด้านอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ เพื่อให้สามารถผลิตได้ตั้งแต่ต้น-ปลายน้ำ ส่งเสริมด้านการศึกษาวิจัยเพื่อผลิตยา วัคซีนและเวชภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความจำเป็นและมีราคาแพง เพื่อลดการนำเข้าจากประเทศ รวมทั้งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศในกรณีที่เกิดวิกฤติการแพร่เชื้อโรคร้ายแรงต่างๆ ในอนาคต ส่งเสริม และพัฒนาการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetic Products) และผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพ เช่น อาหารเสริม อาหารบำรุงสุขภาพ ให้เป็นสินค้าขึ้นชื่อของประเทศ เพื่อรองรับทั้งตลาดผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ ( medical technology industrial) ทุกๆปีประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากต่างประเทศ ด้ว มูลค่าสูถึง 60,000-70,000 ล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่มีนวัตกรรมและผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น กล้อง เครื่อง MRI เครื่อง CT Scan และหุ่นยนต์ผ่าตัด ฯลฯ ขณะที่อุตสาหกรรมด้านเครื่องมือแพทย์ของไทยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีความสามารถในการผลิตและส่งออกได้เฉพาะเครื่องมืออุปกรณ์พื้นฐานและวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ เช่น หลอดฉีดยา เข็มฉีดยา สายยาง ถุงมือยาง น้ำยาทดสอบกรุ๊ปเลือด การตั้งครรภ์ ชุดน้ำยาล้างไต ชุดตรวจการติดเชื้อ HIV และครุภัณฑ์การแพทย์ เช่น หีบและชุดปฐมพยาบาล รถเข็นผู้ป่วย เตียงคนไข้ อุปกรณ์และเครื่องใช้ในทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศัลยกรรม ทันตกรรม เครื่องวินิจฉัยโรคด้วยไฟฟ้า และเครื่องเอกซเรย์ เป็นต้น

ดังนั้นการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ที่มีนวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง จึงเป็นการสร้างรากฐานความแข็งแกร่งให้กับการแพทย์ของไทย รวมทั้งลดการนำเข้าสินค้าราคาแพงจากต่างประเทศได้อีกด้วย ส่งเสริมให้ไทยเป็น Medical Hub และ Surgery Hub อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม พร้อมทำการตลาดอย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น Medical Tourism, Heath & wellness Tourism หรือ Surgery Tourism ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายไปสู่ธุรกิจต่างๆ มากที่สุด เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติที่มีศักยภาพทางการเงินสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป

ดังนั้นการดึงชาวต่างชาติกลุ่มนี้เข้าในประเทศ จึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญ

#การพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร คือการพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

แพทย์ แนะรัฐเร่งสร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์ หลังจบโควิด-19 ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร แพทย์ แนะรัฐเร่งสร้างเศรษฐกิจด้วยการแพทย์ หลังจบโควิด-19 ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างครบวงจร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ เม.ย. เปิดโพล! สงกรานต์ คนไทยยังอยาก รวย อวย Soft Power เสื้อลายดอก-กางเกงช้าง ต้องใส่สาดน้ำ
๑๗ เม.ย. ฮีทสโตรก : ภัยหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิต
๑๗ เม.ย. STX เคาะราคา IPO 3.00 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 18,19 และ 22 เม.ย. นี้ ปักธงเทรด mai 26 เมษายน 67
๑๗ เม.ย. ถอดบทสัมภาษณ์คุณอเล็กซานเดอร์ ฟาบิก (Alexander Fabig) และคุณปีเตอร์ โรห์เวอร์ (Peter Rohwer) ผู้เชี่ยวชาญ
๑๗ เม.ย. HIS MSC จัดงานสัมมนา The SuperApp ERP for Hotel
๑๗ เม.ย. ที่สุดแห่งปี! ครบรอบ 20 ปี TDEX (Thailand Dive Expo) มหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวดำน้ำระดับเอเชีย งานเดียวที่นักดำน้ำรอคอย
๑๗ เม.ย. เคทีซีเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 19.99% ต่อปี แบ่งเบาภาระสมาชิกใหม่บัตรกดเงินสด เคทีซี พราว
๑๗ เม.ย. ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง CHAO เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้าจดทะเบียนใน SET
๑๗ เม.ย. แอร์เอเชีย บิน สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่ เริ่มต้น 1,000 บาทต่อเที่ยว* เสริมทัพหาดใหญ่ บินเลือกได้ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ!
๑๗ เม.ย. YONG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น