ลูกนอนกรนแบบไหน? ที่ต้องพาไปพบแพทย์

พฤหัส ๐๘ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๑๑:๑๒
ลูกนอนกรนแบบไหน? ที่ต้องพาไปพบแพทย์

การนอนมีผลต่อพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ ทั้งการเรียนรู้ สติปัญญา อารมณ์ และสมองเป็นอย่างมาก หากถูกรบกวนจากการหายใจติดขัด ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และอาจส่งผลกับระบบหัวใจและหลอดเลือด จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตกะทันหันจากภาวะหยุดหายใจเป็นเวลานานได้อีกด้วย

จากการศึกษาพบว่า 20% ของเด็กมีอาการนอนกรน โดยเด็กประมาณ 7-10% มีอาการนอนกรนทุกคืน และพบว่าเด็กประมาณ 2% มีปัญหาขณะหลับและมีภาวะหยุดหายใจ ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตราย ภาวะการหายใจลดลงหรือหยุดหายใจขณะหลับ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

  1. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากการหายใจไม่ออก เนื่องจากทางเดินหายใจแคบหรือตัน
  2. ภาวะหยุดหายใจขณะหลับที่เกิดจากความผิดปกติของสมองที่ควบคุมการหายใจหรือกล้ามเนื้อ

แต่ส่วนใหญ่จะพบในแบบแรกบ่อยมากกว่า มักพบในเด็กช่วงก่อนวัยเรียนและช่วงวัยอนุบาล อายุ 2-6 ขวบ เมื่อเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จะส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ การที่ทางเดินหายใจอุดกั้นทำให้ต้องใช้พลังงานในการหายใจมาก เวลานอนเด็กจะกระสับกระส่าย ตื่นบ่อย ส่งผลให้การนอนหลับในเวลากลางคืนไม่มีคุณภาพ กระทบการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจาก ?ต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โต? เป็นผลมาจากการอักเสบซ้ำๆ จากอาการภูมิแพ้หรือเป็นหวัดบ่อยในเด็ก นอกจากนี้ยังมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น ภาวะอ้วนในเด็ก ความผิดปกติของโครงสร้างระบบทางเดินหายใจ เช่น กรามมีขนาดเล็ก มีทางเดินหายใจที่แคบกว่าปกติ มีความผิดปกติของสมองที่ทำให้การควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจผิดปกติ ฯลฯ

โดยสัญญาณอาการที่ชี้ว่าเด็กอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ที่คุณพ่คุณแม่สามารถสังเกตได้ คือ

  • นอนกรนเสียงดัง กรนถี่ๆ หรือกรนเกือบทุกคืน
  • นอนกระสับกระส่าย หรือนอนท่าที่ผิดปกติ
  • หายใจแรง หายใจสะดุดเป็นพักๆ หรือหายใจเฮือกๆ
  • มีเหงื่อออกมาก ปัสสาวะรดที่นอน หรือละเมอ
  • มีอาการไอหรือสำลัก ขณะนอนหลับ
  • หลังจากตื่นนอนมีอาการปวดศีรษะ
  • สมาธิสั้น หงุดหงิด ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมไม่ได้

หรือสังเกตง่ายๆ เวลาที่ลูกหลับลองนั่งนับดูว่าใน 1 ชั่วโมง ลูกหยุดหายใจไปกี่ครั้ง ถ้าน้อยกว่า 5 ครั้งถือว่า ?นอนกรน? แต่ถ้ามากกว่า 5 ครั้งถือว่ามีปัญหา ยิ่งเกิน 30 ครั้งต่อ 1 ชั่วโมง จะถือว่ารุนแรง โดยปกติถ้าเกิน 15 ครั้งต้องได้รับการรักษา ซึ่งการรักษาเบื้องต้นคือการทานยาและพ่นยาประมาณ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกว่ามีอาการนอนหลับหรือนอนกรนอย่างไร?? ถ้าสงสัยว่าอาจมีปัญหาหรือมีความผิดปกติ ควรพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม หากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกตามมาภายหลังได้นะครับ?

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๔๔ กรรมการ กคช. ลงพื้นที่ชุมชนดินแดง ย้ำ ! ตรวจสอบอาคาร D1 ให้ละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องดินแดง
๑๑:๑๑ สาขาการผลิตอีเว้นท์ฯ ม.กรุงเทพ พร้อมผลักดันวงการ T-POP ใน CHECKMATE T-POP DANCE BATTLE
๑๐:๑๓ ฟอร์ติเน็ตผนึกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พร้อมเป็นศูนย์กลางภาคเหนือ สร้างกำลังพลมืออาชีพด้านไซเบอร์เต็มรูปแบบ
๑๐:๕๘ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ชวนสัมผัสฟาร์มกลางท้องทุ่ง และเรียนรู้อนุรักษ์ควายไทย ในงาน INTO THE FARM มนต์รัก
๑๐:๓๐ วว. แนะวัสดุปลูกต้นอ่อนทานตะวันจากก้อนเห็ดเก่าใช้แล้ว
๑๐:๒๑ MICRO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (E-AGM) ประจำปี 2567 ชูกระแสเงินสดแกร่ง - เตรียมชำระคืนหุ้นกู้ 321 ลบ. เม.ย.
๐๙:๔๓ ยางคอนติเนนทอล ฉลองครบรอบความสำเร็จ 15 ปี ในประเทศไทย และการก่อตั้งโรงงานยางคอนติเนนทอลแห่งแรกในประเทศไทยกว่า 5
๐๙:๕๖ เนสท์เล่ ประเทศไทย เร่งเครื่องกลยุทธ์ ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค นำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่อร่อยและมีคุณค่าโภชนาการ
๐๙:๑๑ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถั และสีมาตรฐานครบวงจรแห่งใหม่ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการวอลโว่ พระนคร
๐๙:๔๔ HONNE (ฮอนน์) วงดูโอ้สุดแนวจากอังกฤษ ปล่อยเพลงใหม่ Imaginary ต้อนรับศักราชใหม่ เรื่องราวความรักโรแมนติกที่อิงจากชีวิตจริง