ระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐทั้ง 11 ระบบนี้ อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของส่วนราชการ 8 หน่วยงาน คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการต่างประเทศ กรมบัญชีกลาง และกระทรวงไอซีทีซึ่งรับผิดชอบ ดูแลใน 3 ระบบ คือ ระบบงานสารบรรณและเลขานุการ ระบบงานประชาสัมพันธ์ และระบบงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ ทั้ง 11 ระบบ และระบบที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงฯ จึงจำเป็นจะต้องมีการดำเนินโครงการบูรณาการการพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ เพื่อให้เกิดการยกระดับระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐให้สามารถรองรับการทำงานในรูปแบบสำนักงานอัตโนมัติ หรือ Office Automation และสามารถทำการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบงานต่างๆ อย่างมีมาตรฐาน ยั่งยืน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการปฏิบัติงาน
“วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดทำโครงการนี้ ก็คือ เพื่อศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์หน้าที่การทำงานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของกระบวนการทำงานทั้งหมดของทุกระบบงานของระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ หรือ Back Office ในลักษณะที่เป็น Business Process Model ทั้งหน่วยงานหลักและหน่วยงานผู้ใช้งาน โดยออกแบบกระบวนการทำงานทุกระบบงานของระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ (Back Office) ให้เป็นระบบอัตโนมัติและสามารถเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องได้ ” นายสือ กล่าว
สำหรับการออกแบบและพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ (Back Office) นี้ จะต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี โดยเน้นที่การใช้งานจริงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด รวมทั้งสามารถขยายผลไปยังระบบงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
“หลังจากที่กระทรวงไอซีทีดำเนินการออกแบบและพัฒนาระบบการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐ (Back Office) แล้วเสร็จ ก็จะมีการประชุม-สัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการปฏิบัติงาน รวมทั้งทำการทดสอบระบบเพื่อให้การดำเนินโครงการฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากระบบ Back Office นี้สัมฤทธิ์ผลก็จะทำให้การประสานงานเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ประชาชนที่ใช้บริการภาครัฐก็จะได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น อันเป็นการสนองตอบต่อโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นโครงการที่ภาครัฐจัดทำขึ้นเพื่อปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน” นายสือ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-5682453 ทวิติยา สมัตถะ