นางสาววริยา ว่องปรีชา รองเลขาธิการสายบริหารงานสมาชิก และรักษาการ เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. เปิดเผยว่า “ขณะนี้ กบข. อยู่ระหว่างการเตรียมนำเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก กบข. ประจำปี 2552 ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน 2552 ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 — 12.00 น. เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน ตลอดจนรายงานความคืบหน้าผลสรุปการตรวจสอบของคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของ กบข.ที่ผ่านมาแก่ที่ประชุม ตลอดจนอยู่ระหว่างการทบทวนระเบียบเกี่ยวกับการกำกับดูแลการลงทุนของผู้บริหารและพนักงานให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ส่วนด้านการบริหารกองทุนนั้น กบข. นับว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ กล่าวคือ สามารถรักษาเงินต้นไว้ได้ครบถ้วน และหาผลตอบแทนให้กับสมาชิกได้มากกว่าอัตราผลตอบแทนที่สมาชิกออมเอง โดย 11 ปีที่ผ่านมา กบข. สามารถบริหารเงินกองทุนให้สมาชิกได้รับผลตอบแทนสูงถึง 7.04% ต่อปี หากสมาชิกออมเองจะได้รับผลตอบแทนที่ 3.8% (คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง) นอกจากนี้ สมาชิก กบข. ที่เป็นสมาชิกตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2540 เมื่อคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนจนถึงสิ้นปี 2551 แล้ว สมาชิกจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากเงินต้น124% ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2551 กบข. มีเงินกองทุนรวมทั้งสิ้นราว 4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 ราว 4%”
กบข. มีเป้าหมายที่จะบริหารเงินลงทุนให้มีความมั่นคง และมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อสมาชิกในระยะยาว เพื่อให้สมาชิกมีเงินเพียงพอต่อการเกษียณอายุในอนาคต ซึ่งปัจจุบันประชากรของไทยมีกลุ่มผู้สูงอายุหรือกลุ่มวัยเกษียณเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการออมเพื่อให้สามารถดูแลตนเองได้ดีในวัยเกษียณ โดยเฉพาะการ
ออมระยะยาว ซึ่งถือเป็นบทบาทหลักของ กบข. ที่จะต้องบริหารเงินของข้าราชการที่สมาชิกให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้สมาชิกมีชีวิตที่มั่นคงภายหลังการเกษียณอายุในอนาคต
“กรณีที่อัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงนี้ จะมีผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนของสมาชิกหรือไม่นั้น ก็ต้องตอบว่าอาจมีบ้าง ซึ่ง กบข. จะพยายามลดผลกระทบให้มากที่สุด ขอให้สมาชิกมั่นใจในการดำเนินงานของ กบข. ที่จะดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายของการเป็นกองทุนเงินออมที่คณะกรรมการ กบข. กำหนดไว้ให้ชนะเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยระยะยาว(ปัจจุบันอยู่ที่ 3.3%) เพื่อให้สมาชิกมีเงินใช้อย่างพอเพียงภายหลังเกษียณอายุราชการ” นางสาววริยากล่าวเพิ่มเติม
ด้านผลการตรวจสอบของคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของ กบข. นั้น พบว่าการดำเนินงานของ กบข. ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทุกประการ มีเพียงข้อสังเกตที่ให้ กบข. รับนโยบายไปปรับปรุงเพิ่มเติม อาทิ สัดส่วนเงินที่มอบให้ผู้จัดการกองทุนภายนอกบริหาร การดำเนินงานสื่อสารประชาสัมพันธ์ โดย กบข.ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาทบทวนและออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ส่วนกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กบข. คนใหม่นั้น คาดว่าจะได้ผลสรุปภายใน 2 เดือนต่อจากนี้
Note to Editor: กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อเกษียณอายุ โดยมีสมาชิกถึง 1.17 ล้านคน ด้วยเงินกองทุนสูงถึง 4 แสนล้านบาท สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.04% ต่อปี สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 3.27% และสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 3.81% และมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นกองทุนบำนาญระดับโลก มีหลักการกำกับดูแลที่ดี และดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้สนใจการดำเนินการของ กบข. สามารถติดตามข้อมูลได้ทาง www.gpf.or.th หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลติดต่อทิพวรรณ วอทอง (โม)
สมาชิกต้องการข้อมูลติดต่อศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข.
โทร. 1179 กด 6 [email protected] / www.gpf.or.th