ดีเอชแอล โกลเบิลฟอร์เวิร์ดดิ้ง เปิดสามเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ ตรงสู่แอลเอ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น บริการส่งตรงช่วยเสริมความเร็วและเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจไทยในการติดต่อกับตลาดนานาชาติ

พฤหัส ๐๙ กรกฎาคม ๒๐๐๙ ๑๒:๓๙
ดีเอชแอล ผู้นำธุรกิจลอจิสติกส์ ระดับโลก แนะนำสามเส้นทางใหม่สำหรับบริการขนส่งแบบไม่เต็มคอนเทนเนอร์ (LCL) ที่สินค้าจะออกจากกรุงเทพฯ ทุกสัปดาห์ตรงสู่ นครลอสแองเจลลิส ในสหรัฐฯ เมืองฮัมบรูก ประเทศเยอรมนี และกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการให้บริการจาก ดานมาร์ ไลน์ ผู้ให้บริการขนส่งภายในของดีเอชแอล สินค้าจึงเดินทางถึงที่หมายเร็วกว่าเดิมประมาณหนึ่งสัปดาห์

การเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ในครั้งนี้ เอื้อประโยชน์อย่างยิ่งต่อเส้นทางการค้าสายหลักสำหรับผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ทั้งนี้ เมื่อปีพ.ศ. 2551 ประเทศไทยส่งสินค้าออกไปยังสหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าการส่งออก กว่า 20.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามมาด้วยญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าการส่งออก 20 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่การส่งออกไปประเทศเยอรมันนั้นคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ[1] คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของไทยไปยังสหรัฐฯ และเยอรมนี ในขณะที่แผงวงจรไฟฟ้าเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งไปยังตลาดญี่ปุ่นตามมาด้วยคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์[2]

บริการ LCL คือ การขนส่งสินค้าทางทะเลในปริมาณที่น้อยกว่าขนาดตู้คอนเทนเนอร์ บริการนี้เป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมเพราะมีความยืดหยุ่นสูงในการจัดการระบบซัพพลายเชนโดยสามารถส่งสินค้าได้ในปริมาณไม่มากแต่มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

อะมาดู ดิเอลโล ประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล โกลเบิลฟอร์เวิร์ดดิ้ง เอเชียแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า “ในช่วงภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ลูกค้านิยมใช้บริการ LCL เพื่อบริหารต้นทุนด้านการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งดีเอชแอลมีเครือข่ายบริการ LCL ทีใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีการขนส่ง LCL ในแต่ละปีมากกว่า 2 ล้าน คิวบิก เมเตอร์ ผ่านทาง 45,000 พอยน์-แพร์ การนำเสนอบริการ LCL เส้นทางตรงเส้นใหม่เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะลดเวลาการเปลี่ยนถ่ายสินค้าให้กับลูกค้า โดยเรามีบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการด้านการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเรามีท่าเรือ 20 แห่ง กระจายอยู่ในเอเชียแปซิฟิกใต้”

มร. โทมัส ทีเบอร์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล โกลเบิลฟอร์เวิร์ดดิ้ง ประเทศไทย และประธานกรรมการบริหาร ดีเอชแอล โกลเบิลฟอร์เวิร์ดดิ้ง เอเชียใต้ กล่าวว่า “การนำเสนอบริการ LCL เส้นทางตรงเส้นใหม่เหล่านี้ จะเอื้อประโยชน์โดยตรงต่อลูกค้า โดยพวกเขาจะได้รับการบริการที่น่าเชื่อถือในเวลาการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่รวดเร็วกว่าเดิม ทั้งยังจะได้การบริการแบบ door-to-door service หรือ การรับสินค้าจากผู้ส่งให้ถึงมือผู้รับ พร้อมด้วยบริการในการติดตามสินค้าที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังสหรัฐฯ เยอรมนี และญี่ปุ่น ยังคงมีปริมาณมาก การเปิดบริการใหม่ครั้งนี้จึงช่วยตอกย้ำให้เกิดความมั่นใจสำหรับอนาคตการส่งออกของประเทศ รวมทั้งความต้องการในการใช้บริการ LCL ของดีเอชแอลอย่างต่อเนื่อง”

มร. คลาส โทเรล ผู้อำนวยการกลุ่มการจัดการ LCL เอเชียแปซิฟิก ดีเอชแอล โกลเบิลฟอร์เวิร์ดดิ้ง กล่าวว่า “บริการขนส่งที่เปิดตัวในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของดีเอชแอลที่มุ่งมั่นที่จะขยายการให้บริการ LCL ไปทั่วโลก พร้อมด้วยการรับประกันการส่งสินค้าภายใน 1 สัปดาห์ ความมุ่งมั่นดังกล่าวยังเน้นย้ำให้เห็นถึงแนวทางการดำเนินงานตามหลัก ‘Customers Needs First’ ของบริษัท เนื่องจากเรายังคงพัฒนาเครือข่าย LCL อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่คล่องตัวเพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความชำนาญและศักยภาพของเราในให้บริการ LCL จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของดีเอชแอลในฐานะผู้นำธุรกิจลอจิสติกส์ของภูมิภาคและของโลกได้เป็นอย่างดี”

ในฐานะผู้นำด้านบริการ LCL ดีเอชแอลใช้บริการขนส่งภายในมากกว่าร้อยละ 97 ของการขนส่งทั้งหมด โดยระบบขนส่งภายในของดีเอชแอลและเครือข่ายการให้บริการที่แข็งแกร่งจะช่วยผลักดันให้เกิดความคล่องตัวในการเปลี่ยนถ่ายสินค้า การบริหารจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว ความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพทางด้านต้นทุน และความน่าเชื่อถือที่มากยิ่งขึ้น

การเปิดบริการใหม่ในประเทศไทยของดีเอชแอล เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพของการให้บริการ LCL อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดีเอชแอล ได้เปิดให้บริการการขนส่ง LCL ใน 10 เส้นทางออกจากจีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น

เส้นทางสายใหม่ที่เปิดให้บริการในปีนี้ ได้แก่

- จากเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย ไปยัง เมืองเฟลิกซ์สโตว์ ประเทศอังกฤษ

- จากเมืองเซิ่นเจิ้น ประเทศจีน ไปยัง เมืองฮัมบรูก ประเทศเยอรมนี เมืองเจนัว ประเทศอิตาลี เมืองเซาท์แทมป์ตัน ประเทศอังกฤษ เมืองรอทเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม เมืองเลออาร์ฟ ประเทศฝรั่งเศส และเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

- จากกรุงโตเกียว และโยโกฮามา ประเทศญี่ปุน ไปยัง นครชิคาโก ประเทศสหรัฐฯ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย

อรวรรณ ชื่นวิรัชสกุล หรือ วรสุดา เมนะสูต

โทรศัพท์ 0-2627-3501 ต่อ 212 หรือ 225

โทรสาร 0-2627-3510

อีเมล์ [email protected]

[email protected]

[1] ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2551

[2] ข้อมูลจากสถิติการส่งออกของไทย พ.ศ.2551 โดยกรมส่งเสริมการส่งออก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest