ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานลงนามสัญญาซื้อ-ขายช้างพังบัวคำ ซึ่งเป็นช้างเร่ร่อนพิการตาข้างขวาบอด อายุ 30 ปี กับนางกรรมกร มาดี เจ้าของช้าง ซึ่งพบจากการสำรวจตรวจสอบช้างเร่ร่อนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามโครงการ “ช้างยิ้ม” เพื่อส่งมอบพังบัวคำแก่สถาบันคชบาลแห่งชาติ บริเวณลานคนเมือง เพื่อส่งไปดูแลที่จังหวัดลำปาง โดยมี ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายมนูญศักดิ์ ตินติวิวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ นายวรวิทย์ โรจนไพฑูรย์ ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ ผู้แทนจาก 23 ภาคี ทั้งหน่วยงานภาครัฐเอกชน มูลนิธิ รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาที่บริจาคเงิน ร่วมเป็นสักขีพยาน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตามที่กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการ “ช้างยิ้ม” ขึ้น เพื่อแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนแบบยั่งยืน และได้มีดีเดย์ปล่อยขบวนเทศกิจสำรวจและตรวจสอบช้างเร่ร่อนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 52 นั้น ได้พบพังบัวคำ และควาญช้างที่ดูแลคือนายคำมั่น แสงจันทร์ มีความประสงค์จะขายช้างเชือกดังกล่าวในราคา 300,000 บาท กรุงเทพมหานครได้ประสานไปยังมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ แต่ทางมูลนิธิฯ ไม่สามารถซื้อได้ เพราะช้างมาอายุมากและพิการไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในป่าได้ กรุงเทพมหานครจึงได้ เปิดบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย ศาลาว่ากา กทม. ชื่อบัญชี “ช่วยชีวีช้างไปดูแล” เลขที่ 088-0-03418-1 เพื่อรับบริจาคเงินจากผู้มีจิตศรัทธาช่วยซื้อช้างเชือกนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหาคม 2552 จากนั้น กทม.จะได้ส่งมอบพังบัวคำแก่สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งไปดูแลที่จังหวัดลำปาง ทั้งนี้จากการเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคมาตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.52 จนถึงวันนี้มียอดเงินบริจาคทั้งสิ้น 785,047 บาท โดยจะเปิดรับบริจาคต่อไปเพื่อช่วยเหลือช้างที่พร้อมให้กรุงเทพมหานครดูแลต่อไป
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังได้มอบเงินค่าอาหารช้าง จำนวน 50,000 บาท แก่นายสัตวแพทย์สามารถ ประสิทธิ์ผล จากศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี เพื่อเป็นอาหารช้างพลายโชคดีที่เป็นช้างเร่ร่อนที่กทม. จับ-กักไว้ เพื่อรอพิสูจน์เจ้าของด้วย
และเพื่อเป็นการดำเนินงานเชิงรุกในการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนอย่างจริงจัง กรุงเทพมหานครกำลังเตรียมการในการออกข้อบัญญัติเรื่อง “ช้าง” โดยจะไม่รอ พ.ร.บ เกี่ยวกับช้าง เพื่อให้การแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนมีความต่อเนื่อง และแก้ไขได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้กทม. ยังจะร่วมกับกรมปศุสัตว์ดำเนินการอย่างเข้มงวดในการจับ-กัก และอายัดช้างเร่ร่อนที่สำรวจและตรวจสอบพบเป็นเวลา 30 วัน เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนให้หมดไปจากกรุงเทพมหานคร