มร. เดวิด เจ บรอนเซค ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส กล่าวถึง การรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 777 ใหม่ดังกล่าวว่า “ตอกย้ำถึงปณิธานของเฟดเอ็กซ์ที่มุ่งขยายฝูงบินเพื่อให้บริการที่มีล้ำหน้าแก่ลูกค้าทั่วโลก” และเสริมว่า “ด้วยสมรรถนะในการบรรทุกสินค้า พิสัยการบินที่เพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้โบอิ้ง 777F เป็นเครื่องบินที่มอบความคุ้มค่าในระยะยาวให้แก่เฟดเอ็กซ์ในการให้บริการขนส่งสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว”
การรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 777F ใหม่จะช่วยขยายฝูงบินจำนวนมากกว่า 650 ลำของเฟดเอ็กซ์ ให้มีศักยภาพที่แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าจากการใช้บริการขนส่งในเส้นทางระหว่างประเทศได้มากขึ้น และสนับสนุนเครือข่ายการให้บริการทั่วโลกของเฟดเอ็กซ์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777F เป็นเครื่องบินสำหรับขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ประเภท 2 เครื่องยนต์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพิสัยการบิน 6,675 ไมล์ หรือคิดเป็น 3 เท่า ของระยะทางระหว่างชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกในสหรัฐอเมริกา ทั้งยังมีความยาวที่สุดในตระกูลเครื่องบินขนส่งสินค้าขนาด 2 เครื่องยนต์ และมีสมรรถนะในการขนส่งสินค้าสูงถึง 215,000 ปอนด์ (98 เมตริกตัน)
นอกจากนี้ โบอิ้ง 777F ยังมีพิสัยการบินเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,400 ไมล์ และมีสมรรถนะในการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 14,000 ปอนด์ มากกว่าเครื่องบิน MD-11 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งหลักและระยะไกลในฝูงบินของเฟดเอ็กซ์ขณะนี้
ด้วยพิสัยการบินที่เพิ่มขึ้นของโบอิ้ง 777F จะช่วยให้เฟดเอ็กซ์สามารถบินสู่จุดหมายและศูนย์กลางการบินสำคัญต่างๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยสามารถบรรทุกสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้มากขึ้น ทั้งยังใช้เวลาในการเดินทางลดลง จึงช่วยขยายเวลาปิดรับสินค้าและพัสดุภัณฑ์จากลูกค้าได้มากขึ้น ดังเช่น เครื่องบิน 777F ใช้เวลาในการเดินทางจากเมืองต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียยังสหรัฐอเมริกาเร็วขึ้นกว่าเครื่องบิน MD-11 ประมาณ 1-3 ชั่วโมง
นอกจากการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว เครื่องบิน 777F ยังให้ประสิทธิภาพทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมดังนี้
ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 18% เมื่อเทียบกับเครื่องบิน MD-11
ติดตั้งเครื่องยนต์อันล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 18%
ติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมเสียง ทำให้โบอิ้ง 777F มีเสียงเงียบมากขึ้นในขณะนำเครื่องขึ้นและลงจอด
ตรงตามมาตรฐานการควบคุมเสียงในสนามบิน
ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาและดำเนินงานมากกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ในมาตรฐานเดียวกัน
มร. ไมเคิล แอล ดัคเกอร์ ประธาน กลุ่มตลาดต่างประเทศ บริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส กล่าวว่า “777F คือ นวัตกรรมล้ำสมัยที่มีความโดดเด่นทางด้านปฏิบัติการการบิน ทั้งยังมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้วยคุณสมบัติดังกล่าวทั้งหมด เสริมด้วยประสิทธิภาพที่เหนือชั้นทางด้านการให้บริการ จะช่วยยกระดับบริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศของเฟดเอ็กซ์ให้เติบโตรุดหน้าอีกขั้น พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการจัดส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์สู่จุดหมายต่างๆ ได้โดยตรงและครอบคลุมกว้างขวางมากขึ้นภายในระยะเวลาที่ลดลง ทำให้ลูกค้ามีแต้มต่อทางการแข่งขันมากขึ้น”
ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์เตรียมนำฝูงบินโบอิ้ง 777F เข้าให้บริการใน 4 เส้นทางระหว่างภูมิภาคเอเชีย — สหรัฐอเมริกา ภายในเดือนเมษายน 2553 และคาดว่าจะมีฝูงบินโบอิ้ง 777F รวมทั้งสิ้น 15 ลำในปลายปีงบประมาณ 2557 นอกจากนี้ เฟดเอ็กซ์ได้ลงนามสั่งซื้อเครื่องบิน 777F รุ่นที่ 2 จำนวน 15 ลำ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบในระหว่างปีงบประมาณ 2557 — 2562 และได้รับสิทธิเลือกซื้อเครื่องบิน 777F เพิ่มขึ้นอีก 15 ลำ
เกี่ยวกับเฟดเอ็กซ์
เฟดเอ็กซ์ คอร์ป (มีชื่อเรียกในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กว่า FDX) เป็นผู้ให้บริการขนส่ง อี-คอมเมิร์ซ และบริการเสริมอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าและธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยมีรายได้ปีละ 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เฟดเอ็กซ์ให้บริการโซลูชั่นธุรกิจครบวงจรผ่านเครือข่ายบริษัทในเครือ ที่มีการบริหารงานและแข่งขันในตลาดภายใต้แบรนด์เฟดเอ็กซ์อย่างเป็นเอกภาพ เฟดเอ็กซ์ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้จ้างงานที่ได้รับความไว้วางใจและเป็นที่ชื่นชอบสูงสุดของโลก โดยได้รับการยอมรับจากพนักงานและผู้รับเหมามากกว่า 275,000 ราย ให้เป็นผู้ให้บริการขนส่งที่ยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย หลักจริยธรรม และความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพอย่างเคร่งครัด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและชุมชนต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างครบถ้วน ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ news.fedex.com.
* ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สุภาวดี หรือ สาธิดา บ. อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร 02 252 9871 อีเมล์ [email protected]