ปภ. แนะรองเท้าอันตรายถึงชีวิต

จันทร์ ๒๘ กันยายน ๒๐๐๙ ๑๑:๐๐
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงสวมรองเท้าส้นหนา ส้นสูงและรองเท้าแตะ โดยเฉพาะรองเท้าที่มีความชื้นหรือเปียกในขณะขับรถ ไม่วางสิ่งของที่สามารถกลิ้งได้ไว้บนตักขณะขับขี่ รวมถึงไม่นำรองเท้าวางในตำแหน่งใต้เบาะหรือหลังเบาะคนขับ เพราะหากต้องหยุดรถกะทันหันรองเท้าหรือสิ่งของอาจลื่นเข้าไปติดค้างในแป้นเบรก คลัทซ์และคันเร่ง ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงได้

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า บ่อยครั้งที่มักเกิดอุบัติเหตุจากรองเท้าหรือสิ่งของเข้าไปติดใต้แป้นเบรกหรือคันเร่ง ดังเช่นเหตุการณ์รถปิกอัพพุ่งชนร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในสถานีบริการน้ำมัน จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะนำให้ผู้ขับขี่สวมรองเท้าไม่มีส้นในขณะขับรถ หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงหรือส้นหนาเพราะจะทำให้เหยียบเบรกและคันเร่งไม่ถนัด จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังการสวมรองเท้าแตะ กรณีผู้ขับขี่ถอดรองเท้าขณะขับรถ ควรนำรองเท้าไปวางไว้ ในบริเวณอื่น ไม่ควรวางไว้ใต้เบาะและหลังเบาะที่นั่งคนขับ รวมถึงไม่วางสิ่งของที่สามารถกลิ้งได้ไว้ที่ตักขณะขับขี่รถ เพราะหากรถเบรกกะทันหัน อาจทำให้รองเท้าเลื่อนหรือสิ่งของกลิ้งเข้าไปติดใต้แป้นเบรก ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทันจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าแตะที่เปียกน้ำ โดยเฉพาะรองเท้าที่สวมใส่มาเป็นเวลานาน เพราะพื้นรองเท้าจะมีความมันลื่นมากกว่าปกติ อาจลื่นเข้าไปค้างใต้เบรก คลัทซ์และคันเร่ง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง โดยเฉพาะหากเกิดเหตุฉุกเฉินและจำเป็นต้องหยุดรถกะทันหัน จะทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนในขณะขับรถ เช่น การแต่งหน้า ทาปาก สูบบุหรี่ ส่งข้อความทางมือถือ โทรศัพท์ระหว่างที่รถติดหรือขณะรถเคลื่อนตัว การเอี้ยวตัวหยิบสิ่งของที่เบาะหลัง การค้นหาสิ่งของในกระเป๋า การรับประทานอาหารหรือขนม การเปลี่ยนคลื่นวิทยุหรือเปลี่ยนซีดีในขณะขับรถ เนื่องจากสมาธิของผู้ขับขี่ไม่ได้อยู่ที่การขับรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการควบคุมรถลดลง และการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินช้ากว่าปกติ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง หากมีความจำเป็นต้องประกอบกิจกรรมอื่นในระหว่างการขับรถ ควรนำรถจอดในบริเวณที่ปลอดภัย หรือจุดจอดรถ เช่น สถานีบริการน้ำมัน ที่พักรถริมทาง เป็นต้น กรณีจอดริมข้างทาง ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน และนำป้ายเตือนหรือวัสดุอื่นๆ เช่น กรวยสามเหลี่ยม กิ่งไม้ หรือผ้าที่มีลักษณะสะท้อนแสงมาวางไว้ด้านหลัง ห่างจากจุดที่จอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า ๕๐ เมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หรืออุบัติเหตุชนท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๒๒ เสนา ตอกย้ำความสำเร็จ ในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
๐๙:๑๑ EP พร้อมเดินหน้ารับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม ดันผลงานปี67โตทะยาน 4 เท่า หลังได้รับการสนับสนุนเงินกู้ Project Finance จาก
๐๙:๓๘ BEST Express บุก บางบัวทอง เปิดแฟรนไซส์ขนส่งสาขาใหม่ มุ่งศึกษาพื้นที่ เจาะกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง ตอบความต้องการตรงจุด
๐๙:๑๗ ผถห.TQR โหวตจ่ายปันผลปี 66 อีก 0.226 บ./หุ้น รวมทั้งปี 0.40 บ./หุ้น ลุยพัฒนาโปรดักส์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่เต็มสปีด
๐๙:๓๗ CPANEL APM ร่วมต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวกัมพูชา พร้อมนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิต Precast จ.ชลบุรี
๐๘:๒๒ SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,725 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
๐๘:๐๑ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนมัธยม โชว์หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์
๐๘:๔๗ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รุ่นที่ 4 ขยายความรู้ทางการเงินสู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง
๐๘:๕๓ ส่องสัญญาณฟื้นตัว ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 รับผลบวกมาตรการรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ - ยอดสั่งสร้าง
๐๘:๕๕ RSP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 15 พ.ค. นี้