สุรเชษฐ มุ้งทอง ผู้จัดการฝ่ายห้างสรรพสินค้าและเมอร์ชันไดส์ซิ่ง บริษัท ควิกซิลเวอร์ รีเทล ประเทศไทย เผยว่า เนื่องจาก Quiksilver และ Roxy แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำจากประเทศออสเตรเลีย ได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยด้วยดี จึงได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ครั้งนี้ขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าของ Quiksilver รวมทั้งเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มวัยรุ่นด้วย
“เราต้องการสนับสนุนให้ผู้ที่มีฝีมือ และความคิดสร้างสรรค์ด้านกราฟฟิกดีไซน์ รวมถึงไอเดียแบบ ไร้ขีดจำกัดผ่านกิจกรรมดังกล่าว การประกวดจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Quiksilver Design Award และ Roxy Design Award มีทั้งประเภทนักเรียน นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย อายุระหว่าง 17-24 ปี และประเภทบุคคลทั่วไป เราจะมีการโปรโมทกิจกรรมด้วยการจัดโรดโชว์ ไปตามมหาวิทยาลัยชื่อดัง 5 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, ศิลปากร, กรุงเทพ, รังสิต
เนื่องจาก ควิกซิลเวอร์ และ ร็อกซี่ เป็นไลฟ์สไตลแบรนด์ ดังนั้นในการประกวดครั้งนี้ ในเรื่องของเทคนิค ดีไซน์ต่างๆ เราจึงเปิดกว้างมากสำหรับผู้เข้าประกวด เช่น อาจจะทำเป็นตัวหนังสือ ภาพข่าว ภาพถ่าย ฯลฯ มาสกรีนเสื้อก็ได้ เราเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เข้าประกวดใช้ความคิดสร้างสรรค์กันเต็มที่อยากออกแบบสไตล์ไหนก็ทำได้เลย เสื้อของเราที่ดีไซน์ออกมาแต่ละตัว แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอยด้วย คือต้องทำให้ขายได้ อย่างเสื้อบางตัวดีไซน์ออกมายากมาก แต่ขายไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร จึงอยากชวนน้องๆ ให้ลองมาออกแบบดีไซน์ในการประกวดครั้งนี้กันเยอะๆ ถ้าคุณเจ๋งจริง ก็จะได้เห็นผลงานของคุณอยู่บนเสื้อควิกซิลเวอร์ หรือ ร็อกซี่ ที่จะนำไปจำหน่ายทั่วเอเชียแปซิฟิค ด้วย” สุรเชษฐ กล่าว
ในงานแถลงข่าวนี้ ยังมีพันธมิตรรายสำคัญ คือ กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการ นิตยสาร Elle มาร่วมพูดคุยเรื่อง “การออกแบบกับการตลาด”, นนทวัฒน์ เจริญชาศรี ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ นิตยสาร Wall paper มาว่าด้วยเรื่อง “การออกแบบและเทรนด์การออกแบบในปัจจุบัน” และ โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ศิลปินวาดภาพชื่อดัง จะมาพูดเรื่อง “แรงบันดาลใจในการออกแบบ” โดยมีแฟชั่นโชว์ ในชุดเสื้อยืดสุดเท่หลากสีสัน โดยนางแบบนายแบบคนดัง อาทิ จี๊ด-แสงทอง เกตุอู่ทอง, เบนซ์-ฐิติฉัตร (นิพิธ) ฮันเก้, อ้วน-รังสิต ศิรนานนท์ ฯลฯ มาเดินให้ชมเป็นตัวอย่าง ระหว่างที่มีการพูดคุยด้วย
โลเล-ทวีศักดิ์ จิตรกรหนุ่มมาดเซอร์ ให้คำนิยามเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในความคิดของเขาว่า หมายถึง จุดยึดเกาะบางอย่างที่เราจะสร้างสรรค์ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราเข้าไปอยู่ในป่า ซึ่งลำบากมาก แล้วต้องมาเจอช้างเป็นร้อยตัว ก็อาจจะหยิบเรื่องนี้มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะได้ เพราะเป็นสิ่งที่เราสนใจ
“ส่วนเรื่องการออกแบบ ควรจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้างนั้น คือ ถ้าเราจะออกแบบอะไรสักอย่าง ก็ต้องมีหลักในการถ่ายทอดด้วย อย่างน้อยเราต้องรู้ตัวแล้วว่าเราสนใจเรื่องอะไรต่างๆ บ้าง แล้วจากนั้นก็สร้างสรรค์ขึ้นมาจากแรงบันดาลใจของเรา ผมว่าชีวิตเราก็เหมือนกับการทดลอง ต้องมีการเรียนรู้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จอะไร ก็ต้องลองทำก่อน ถ้าทำไม่ดีก็ทำใหม่ ทำต่อไปเรื่อยๆ ครับ” ศิลปินหนุ่ม กล่าว
ทางด้าน หมู-นนทวัฒน์ เจริญชาศรี กล่าวว่า งานดีไซน์ที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ passion ของดีไซเนอร์ที่แสดงออกมา โดยสิ่งที่นำเสนออาจขึ้นอยู่กับลักษณะรอบๆ ตัวหรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเขา ซึ่งมันไม่มีผิด ไม่มีถูก หรือบางคนอาจชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่ถ้าเขามีความสุขกับการทำงานดังกล่าว นั่นคือสิ่งสำคัญสำหรับนักออกแบบ
“ส่วนเรื่องทิศทางของงานศิลปะในปีหน้า ค่อนข้างกว้างมาก คาดการณ์ยาก ผมรู้สึกว่าขึ้นอยู่กับความสนใจของดีไซเนอร์หรือว่าคนทั้งนั้น ด้วยเทคโนที่เข้าถึงได้ง่าย เทรนด์จึงมีไว้เพื่อสังเกตหรือหยิบจับประเด็นบางอย่างที่น่าสนใจ ดีไซเนอร์ทุกคนรู้และมีความเป็นตัวเองสูง เทรนด์จะเป็นตัวที่อาจทำให้ดีไซเนอร์คอยหลบหลีก หรือสร้างงานใหม่ขึ้นมาได้ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องตาม แค่ให้รู้ว่าเราจะไปทางไหน แล้วเราควรจะไปทางนั้นเท่านั้นเอง ผมจึงรู้สึกว่าเทรนด์ มันขึ้นอยู่กับความสนใจเฉพาะบุคคลมากกว่า การอ้างเทรนด์ ก็แล้วแต่คนที่นำไปใช้ บางคนอาจนำไปพัฒนาไอเดีย บางคนเอาไว้คุยกันเป็นลักษณะตัวตั้งต้น แล้วแต่วิธีการของเขามากกว่า” ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ จาก Wall paper กล่าว
สำหรับ กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการ นิตยสาร Elle มองว่า ในแง่ของธุรกิจการตลาดนั้น การจะออกแบบผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น จำเป็นต้องมองในเรื่องประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจในตัวสินค้า และสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง
“จริงๆ แล้ว ศิลปะ ก็เหมือนการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง เมื่อเราออกแบบอะไรออกมาแล้ว ก็สามารถนำสิ่งที่ออกแบบมาทำให้เป็นคอมเมอร์เชียลได้ จึงจะประสบความสำเร็จ การออกแบบไม่ใช่การตัดสินใจของดีไซเนอร์เพียงคนเดียว อาจต้องมีส่วนอื่นๆ มามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย มันเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด
สุดท้ายอยากฝากน้องๆ ไว้ว่า แรงบันดาลใจของคนเรามันไม่มีข้อจำกัด เราสามารถหาได้จากสิ่งรอบตัว โดยอาจมีสมุดเล็กๆ ติดตัวเอาไว้ พอเห็นอะไรที่ชอบหรือน่าสนใจก็จดเอาไว้ แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่เราหาได้ทั้งวัน” กุลวิทย์ กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีแขกรับเชิญ 2 สาวพี่น้อง ซึ่งเป็นนักวาดภาพประกอบชื่อดัง ทั้งคู่มาร่วมงานด้วย คือ ภัทรีดา และ นวลตอง ประสานทอง โดย 2 สาว ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานประกวดออกแบบเสื้อยืดในครั้งนี้ด้วย ในฐานะคนทำงานศิลปะคนหนึ่ง
ภัทรีดา กล่าวว่า แบรนด์ควิกซิลเวอร์และร็อกซี่ เป็นสินค้าสำหรับวัยรุ่นอยู่แล้ว คนที่เข้าประกวดในครั้งนี้ จึงน่าจะค่อนข้างตรงกลุ่มเป้าหมาย และมีใจที่อยากทำอะไรที่สร้างสรรค์และแสดงถึงความเป็นตัวเองเช่นกัน
“การที่เราทำเสื้อที่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทำเสร็จแล้วให้คิดว่าเราอยากใส่เสื้อตัวนี้มั้ย ถ้าหากตัวเองยังไม่อยากใส่ก็ให้เก็บไว้แล้วทำใหม่ แต่เมื่อการประกวดออกแบบเสื้อยืดแบรนด์นี้ ไม่ใช่เป็นสินค้าที่ทำเพื่อเราคนเดียว เมื่อเราชอบแล้วก็ต้องทำให้ทาร์เกตของแบรนด์นี้ชอบด้วย เพราะเราประกวดภายใต้ แบรนด์นี้
เวทีนี้เป็นเหมือนโอกาสที่มายื่นอยู่ตรงหน้าน้องแล้ว ถ้าแป้งเรียนอยู่ต้องเข้าประกวดด้วยแน่ๆ เพราะเป็นวัยไฟแรงอยากทำผลงานต่างๆ แต่ไม่มีที่สำหรับแสดงผลงานให้คนจำนวนกว้างมากกว่าในมหาวิทยาลัย การประกวดครั้งนี้จึงเป็นเวทีที่ดีมาก เหมือนการเปิดประตูบ้านเราให้กว้างขึ้น จากที่เราเรียนทฤษฎี ได้คะแนนในมหาวิทยาลัย แต่พอมาประกวดข้างนอกมันเป็นสิ่งน่าสนุก ใครที่ไม่กล้า ให้คิดว่า ไม่มีอะไรต้องเสีย คิดง่ายๆแค่นี้เลยค่ะ” นักวาดภาพผีมือดี กล่าว
ส่วน นวลตอง นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ ผู้เป็นน้องสาว กล่าวว่า ถ้าสมมติเธอเองเข้าประกวดด้วย ก็อยากออกแบบเสื้อผ้าที่มีสไตล์ของตนเองชัดเจน ใส่ได้ทั้งชายและหญิง เพราะเห็นว่าขณะนี้ทุกคนอยากแต่งตัวสนุก เอามามิกซ์กันได้ให้เป็นตัวตนใหม่ของเขามากขึ้น อยากเห็นการออกแบบในสไตล์นี้มาก คนที่มีแนวคิดและสไตล์ของตัวเองชัดเจน เหมือนเห็นภาพว่าถ้าเขาอยากเอาไปมิกซ์แล้วแต่งแบบนี้ นั่นแหละคือใช่เขาเลย
“การที่เวทีนี้เปิดโอกาสให้นักเรียนนักศึกษาได้มาแสดงฝีมือในการออกแบบ และผลงานที่ชนะเลิศยังจะได้นำไปผลิตเพื่อจำหน่ายที่ต่างประเทศ นวลว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะทำให้น้องๆ ได้รู้จักตลาดข้างนอกด้วย สมมติว่าถ้าทำขายในเมืองไทยแล้วเวิร์ค แล้วตลาดเมืองนอกจะใช้หลักการเดียวกันหรือเปล่า อยากให้น้องๆ เข้ามาหาประสบการณ์ตรงนี้กันมากๆ” นวล กล่าว
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการประกวดในกิจกรรมนี้ สามารถรับใบสมัครได้ที่ร้าน Quiksilver สยามเซ็นเตอร์ หรือดาวน์โหลดได้จาก www.quiksilver-roxydesign.com ใช้ระยะเวลาในการประกวด 3 เดือน เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2553 โดยเปิดรับใบสมัครพร้อมส่งผลงานตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ผลงานทั้งหลายจะถูกแสดงในรูปแบบของ Presentation Board หรือ Multimedia ผลงานที่ส่งผ่านทาง Wallpaper Magazine ควรอยู่ในขนาดกระดาษ A2 ส่วนผลงานที่ส่งผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้น จะเปิดรับจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 8 มกราคม 2553 และจะทำการประกาศผลการตัดสินในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553
ส่วนการให้คะแนนการตัดสินเราจะพิจารณาจาก 3 ข้อหลักๆ คือ การออกแบบ 40%,ความคิดสร้างสรรค์ 40% และ การนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง 20% สำหรับผลงานของผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับการผลิตเป็นเสื้อยืดรุ่นพิเศษของ Quiksilver และ Roxy และจะวางจำหน่ายเฉพาะที่ร้าน Quiksilver ทั่วเอเชียแปซิฟิค
สำหรับรางวัลของสุดยอดฝีมือบนเวทีนี้ ผู้ชนะเลิศในการออกแบบแบรนด์ Quiksilver Design Award และ Roxy Design Award ทั้งประเภทนักเรียนนักศึกษา และ ประเภทบุคคลทั่วไป จะได้รับเงินสดมูลค่า 50,000 บาท รวมถึงทุนการศึกษาจาก Insight Education Consulting และ Academy of Information Technology (AIT), Sydney เพื่อไปศึกษาทางด้าน Graphic Design ที่ Academy of Information Technology, Sydney เป็นระยะเวลา 1 เดือน มูลค่าทุนละ 80,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรางวัล Popular Vote อีกด้วย โดยผู้ชนะจะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 10,000 บาท จาก Quiksilver and Roxy ส่วน ผู้โชคดีจากการจับฉลากจากการโหวตทั้งหมดจะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 2,500 บาท จาก Quiksilver และ Roxy จำนวน 5 รางวัล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับใบสมัครได้ที่ร้าน Quiksilver สยามเซ็นเตอร์ หรือดาวน์โหลดได้จาก www.quiksilver-roxydesign.com รางวัลสุดยอดนักออกแบบของ ควิกซิลเวอร์ กำลังรอคนมีไฟและไอเดียสุดเหวี่ยงของคุณอยู่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit