“ขาเมา ดื่มแล้วขับ ระวังตัว ศาลเริ่มแล้ว! มาตรการเด็ดขาด สั่งกักขังคนดื่มแล้วขับ”

พุธ ๐๒ ธันวาคม ๒๐๐๙ ๑๖:๑๔
ดื่มแล้วขับ ถูกจับขึ้นศาลทุกราย ศาลเริ่มพิพากษาคดีดื่มแล้วขับ ด้วยการส่งกักขังทันที นำร่องโดยศาลภาค 2 จังหวัดตราด

ที่สถานีตำรวจทุ่งมหาเมฆ มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ สำนักงานศาลยุติธรรม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวมาตรการลดอุบัติเหตุ “ดื่มแล้วขับ ถูกจับขึ้นศาล มีสิทธิ์ติดคุก” โดย ผู้พิพากษา ประสงค์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า อุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตัวผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งทางร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่ป้องกันได้เพียงแค่ลดพฤติกรรมเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับ

ซึ่งคดีเมาแล้วขับโดยปกติแล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะส่งฟ้องศาลภายใน 48 ชั่วโมง และต่อมาศาลอาจตัดสินให้รับโทษตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล เช่น รับโทษปรับ 5,000 — 20,000 บาท ส่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพิกถอนใบอนุญาต หรือให้ทำงานบริการสังคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ

พล.ต.ต. อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นสูงในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ปีใหม่นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังพร้อมในการสกัดกั้นพฤติกรรมดื่มแล้วขับ ด้วยการตั้งด่านตรวจจับอย่างเข้มข้น ทั้งนี้กระบวนการในการ ตรวจเจอปริมาณแอลกอฮอล์ที่มีสูงเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะถูกดำเนินคดี โดยการสั่งฟ้องศาลทุกราย และรอพิจารณาโทษภายใน 48 ชั่วโมง หากศาลได้มีการพิจารณาถึงความผิดแล้วและพิพากษากักขัง โดยจุดเริ่มต้นในการกักขังก็คือจุดตรวจของตำรวจนั่นเอง

สุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ทุกๆ ปี มีคนตายบนถนน 12,000 คนต่อปี พิการสะสม 100,000 คน ความสูญเสีย 2 แสนล้านต่อปี ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ 2 เท่า ระหว่างปี 2550 — 2552 พบว่า ในช่วงปกติจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 280 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 35 คน ในขณะที่ช่วงเทศกาลปีใหม่มีอุบัติเหตุเฉลี่ยวันละ 607 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 58 คน สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดกับรถจักรยานยนต์ ถึงร้อยละ 84 และมีสาเหตุจากเมาสุราขณะขับรถเป็นอันดับหนึ่ง ถึงร้อยละ 41

มูลนิธิเมาไม่ขับทำงานรณรงค์เพื่อป้องกันพฤติกรรมการเมาแล้วขับอย่างต่อเนื่อง เท่าที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ในการสกัดกั้นพฤติกรรมเสี่ยงเมาแล้วขับโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นงานที่ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันอุบัติเหตุ ด้วยการลดพฤติกรรมเสี่ยง หากดื่มแล้วไม่ควรขับรถ ทั้งนี้ประชาชนเองก็สามารถเรียกร้องสิทธิด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เช่น หากพบพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน ก็สามารถโทรแจ้งได้ที่ จส.100 หรือ ร่วมด้วยช่วยกัน

ศาลในบางภาคตระหนักถึงความรุนแรงของอุบัติเหตุทางจราจรจากการดื่มแล้วขับ ว่าเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสังคม จึงเริ่มพิพากษาให้ผู้ดื่มแล้วขับรับโทษกักขัง โดยไม่รอลงอาญา โดยศาลภาค 2 คือ ชลบุรี และภาคตะวันออก 8 จังหวัด นำร่องพิพากษาสั่งกักขัง เช่น ศาลจังหวัดตราดสั่งกักขังผู้ดื่มแล้วขับ ภายใน 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ถึง กันยายน 2552 รวมทั้งสิ้น 155 ราย

ทั้งนี้ศาลจังหวัดอื่นๆ ได้แก่ ศาลภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด และ ศาลจังหวัด ฉะเชิงเทรา อยุธยา สุพรรณบุรี อุบลราชธานี กำแพงเพชร เชียงใหม่ นนทบุรี พิษณุโลก และ จันทบุรี ได้เริ่มพิพากษาสั่งกักขังคดีดื่มแล้วขับเช่นกัน

ด้านตัวแทนเหยื่อเมาแล้วขับ เจษฏา แย้มสบาย กล่าวว่า ผู้พิการจากการเมาแล้วขับ ขอกราบขอบพระคุณศาลยุติธรรมในการที่ท่านพิจารณาเห็นโทษเมาแล้วขับ และใช้มาตรการเด็ดขาดในการพิพากษากักขังคดีเมาแล้วขับ เพื่อให้เกิดเป็นตัวอย่าง ทำให้สังคมตื่นตัวและลดพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน คาดว่าหากศาลท่านพิจารณาคดีและพิพากษาให้กักขังอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ผู้ดื่มเกิดความยำเกรงและไม่กล้าดื่มแล้วขับ เป็นการช่วยลดอุบัติเหตุอย่างได้ผล และทำให้สังคมเกิดจิตสำนึกในการรักษาความปลอดภัยในระยะยาว

สำหรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ทุกภาคส่วนต่างช่วยกันระดมกำลังในการป้องกันการสูญเสียจากอุบัติเหตุให้มากที่สุด อย่างไรก็ดีหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามสมควร ประชาชนสามารถแจ้งร้องเรียนได้ และหากพบอุบัติเหตุจราจรสามารถโทรแจ้งศูนย์ กู้ชีพนเรนทร 1669

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์:

บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

วิภาวริศ เกตุปมา หรือ จาจิญา เพ็งพันธ์ และชวิศรา สัมฤทธิ์นรพงศ์

02-951-9119

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?