มาโนชญ์ เพ็งทอง ศิลปินจากเกาะสมุย จัดนิทรรศการเดี่ยว ชุด ภาพปริศนาธรรมไทย ณ ห้องนิทรรศการชั้น 2 หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 16 มกราคม — 2 กุมภาพันธ์ 2553 พิธีเปิดวันอังคารที่ 19 มกราคม 2553 เวลา 18.30 น.
เป็นผลงานที่มุมานะ สร้างสรรค์ในระยะเวลานับสิบปีของมาโนชญ์ เพ็งทอง
“ผลงานชุดภาพปริศนาธรรมไทย มีเนื้อหาเชิงอุปมาอุปมัย โดยได้นำเอาหลักคิดทางพระพุทธศาสนามาสื่อผ่านสุนทรียะ ในรูปแบบผลงานจิตรกรรม โดยมุ่งหวังสืบทอดอุดมการณ์ทางศิลปะ เฉกเช่นเดียวกับที่ศิลปินรุ่นบรรพบุรุษได้สืบทอดต่อๆกันมาถึงคนรุ่นเราในปัจจุบัน ซึ่งพันธกิจสำคัญในการสร้างสรรค์งานศิลป์มีความมุ่งหมายอยู่ที่การใช้งานศิลปะนี้ เป็นเครื่องมือในการขัดเกลาจิตใจตนเอง แล้วสื่อผ่านไปยังผู้คน ให้เห็นถึงครรลองวิถีอันดีงาม โน้มนำสู่การเรียนรู้และเข้าใจชีวิต แล้วพรากจิตของตนเองออกมาให้พ้นจากกองทุกข์”
มาโนชญ์ เพ็งทอง บอกว่า เนื้อแท้ของศิลปะควรอยู่ที่การละเลิกอัตตา ชี้ให้เพื่อนมนุษย์ได้รู้แจ้งเห็นจริงเรื่อง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะสาเหตุแห่งอัตตาอันประกอบด้วยอวิชชานั่นเองที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์
“ภาพเขียนของผมจึงเป็นเสมือนเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้คนได้เข้าใจเรื่องราวของจิตมนุษย์ การเกิดขึ้นของทุกข์ และการดับทุกข์
“เราต่างเป็นเพียงชีวิตหนึ่งที่เดินทางมาสู่โลกใบนี้แล้วจากไป เราต่างเป็นนักโทษประหารที่ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตแล้วตั้งแต่ถือปฏิสนธิ รอเพียงวันลงอาญา จะช้าหรือเร็ว บ่อยครั้งที่เราหลงลืมไป เผลอคิดไปว่า มีอะไรเป็นของเราจริงๆ แล้ววาดหวังให้ทุกสิ่งเป็นไปตามใจใจเรา แต่ว่าโลกย่อมดำเนินไปตามทางของโลก ไม่ว่ามนุษย์จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม มันเป็นเช่นนี้มานานแสนนาน และยังดำเนินต่อไป
“ไม่มีใครสามารถบังคับธรรมชาติให้เป็นไปตามใจของใครได้ นั่นจึงเป็นปัญหา และปัญหาใหญ่เพียงประการเดียวของมนุษย์ก็คือ ไม่สามารถรักษาใจให้สงบเย็นได้ ในยามที่ต้องเผชิญกับความผันผวนของโลก”
พระพุทธองค์เป็นผู้ทรงค้นพบความจริงที่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนัตตา และศิลปินบรรพบุรุษรุ่นแล้วรุ่นเล่า เพียรสืบทอดเพื่อบอกข่าวคราวอันประเสริฐแก่ผองชน ทั้งจิตรกร นักเขียน มโนห์รา หนังตะลุง ฯลฯ
มาโนชญ์ เพ็งทอง เป็นศิลปินอีกคนหนึ่งที่รับเอาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนามาบอกเล่าผู้คน พบกับผลงานของเขา แล้วย้อนดูจิตของตนในเวลาเดียวกัน งานนี้มีผลงานถึง 40 ภาพ ให้เรียนรู้กันอย่างจุใจ