นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 3 มกราคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่หกของการรณรงค์ “7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน” เกิดอุบัติเหตุ 358 ครั้ง ลดลงจากปี 2552 (388 ครั้ง) 30 ครั้ง ร้อยละ 7.73 ผู้เสียชีวิต 30 คน ลดลงจากปี 2552 (35 คน) 5 คน ร้อยละ 14.29 ผู้บาดเจ็บ 378 คน ลดลงจากปี 2552 (414 คน) 36 คน ร้อยละ 8.70 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 26.54 รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.23 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 76.61 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 57.54 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 36.59 ถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.45 ช่วงที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กลางคืน ร้อยละ 62.57 โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. ร้อยละ 29.61 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 51.47 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ตรัง สุราษฎร์ธานี 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครศรีธรรมราช 3 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี 14 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ มี 11 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 54 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ มี 11 จังหวัด ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,702 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 70,623 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 704,012 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,703 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.59 ของการเรียกตรวจ โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่มากที่สุด 21,288 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,704 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (วันที่ 29 ธันวาคม 2552 — 3 มกราคม 2553) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,289 ครั้ง ลดลงจากปี 2552 (3,549 ครั้ง) 260 ครั้ง ร้อยละ 7.33 ผู้เสียชีวิตรวม 309 คน ลดลงจากปี 2552 (335 คน) 26 คน ร้อยละ 7.76 ผู้บาดเจ็บรวม 3,563 คน ลดลงจากปี 2552 (3,810 คน) 247 คน ร้อยละ 6.48 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงใหม่ 110 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จันทบุรี เชียงใหม่ 11 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 128คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 6 วัน ได้แก่ ยโสธร จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 6 วัน มี 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ นราธิวาส ปัตตานี ยโสธร สกลนคร สมุทรสาคร อ่างทอง จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 6 วัน ได้แก่ ยโสธร
นายถาวร กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ 7 วันขับขี่ปลอดภัย เทิดไท้องค์ราชัน ซึ่งประชาชนบางส่วนยังอยู่ระหว่างเดินทาง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการให้จังหวัดดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยปฏิบัติการจัดตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลัก จุดสกัดประจำชุมชน หมู่บ้านบนถนนสายรอง และจากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วัน พบว่า ในภาพรวมมีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงจากการไม่สวมหมวกนิรภัยลดลงจากร้อยละ 52 เป็นร้อยละ 31 จากการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยของทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง อุบัติเหตุที่เกิดบนถนน อบต. หมู่บ้าน ลดลงร้อยละ 12 เพราะกระทรวงมหาดไทย ใช้มาตรการทางสังคม กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หมู่บ้านมีส่วนร่วมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ อุบัติเหตุรายใหญ่จากรถโดยสารสาธารณะลดลง เนื่องจากกระทรวงคมนาคมเน้นการดำเนินการตามนโยบายด้านมาตรฐานความปลอดภัยเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะ การตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถและพนักงานขับรถอย่างเข้มงวดทั้งที่สถานีขนส่งต้นทาง ปลายทาง และจุดตรวจต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้สถิติอุบัติเหตุทางถนนมีแนวโน้มลดงลง แต่จากการวิเคราะห์พบข้อมูลที่ต้องนำไปขยายผลในระยะยาว ดังนี้ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนมีสาเหตุจากการ เมาแล้วขับเป็นลำดับแรก รองลงมา ได้แก่ ขับรถเร็ว แซงในที่คับขัน โดยรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และจากข้อมูลการดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร พบ ไม่มีใบขับขี่มากที่สุด และกลุ่มวัยแรงงานเป็นกลุ่มที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับสูงที่สุด ดังนั้น ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จะได้ประสานให้จังหวัดนำข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ไปวิเคราะห์สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาและปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฝึกอบรม ให้ความรู้การขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจรแก่เด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง พร้อมทั้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินโครงการ 365 วัน ลดการตายด้วยวินัยจราจรอย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้เมาแล้วขับ ขับรถเร็ว แซงในที่คับขัน และความผิดอื่นๆ ตาม 10 ฐานความผิด ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด สำหรับปัญหาเด็กและเยาวชนดื่มสุราแล้วขี่รถจักรยานยนต์มากขึ้น ให้กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ให้กลุ่มเป้าหมายรับทราบผลกระทบจากการเมาแล้วขับ ผู้ประกอบการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับทราบและปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมปฏิบัติการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มแข็งในครั้งนี้ ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง