คต. “กระตุ้น” ผู้ประกอบการอยุธยา ใช้สิทธิ์ FTA

พุธ ๒๘ เมษายน ๒๐๑๐ ๑๕:๓๓
นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดสัมมนาเรื่อง “FTA : โอกาสของสินค้าไทยในอาเซียน/อินเดีย/ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์” วันอังคารที่ 27 เมษายน 2553 ณ ห้องกรุงศรีอยุธยา 2 โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลง ตลอดจนมาตรการและความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี (กองทุน FTA) ซึ่งการสัมมนาดังกล่าว มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจเข้ารับฟังการสัมมนาในครั้งนี้กว่า 150 คน

โดยที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการอุตสาหกรรมถึง 5 แห่ง ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมที่สำคัญ ๆ จำนวนมาก ทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าส่งออกของไทย อาทิ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์ ยานยนต์ จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการที่จะเสริมศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ สามารถขยายการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์ภายใต้เขตการค้าเสรีได้อย่างสูงสุด

เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) ได้ลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นศูนย์แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ จะเป็นฐานการผลิต และเป็นตลาดเดียวกันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และจะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC) ในปี 2558 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้า อาเซียนจึงนับเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย โดยในปี 2552 มีมูลค่าประมาณ 32,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าที่ไทยส่งออกโดยใช้สิทธิภายใต้ AFTA สูง ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ รถปิกอัพ รถจักรยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และอาหารปรุงแต่ง เป็นต้น สำหรับตลาดอาเซียนที่ไทยส่งออกโดยใช้สิทธิพิเศษฯ สูง 3 อันดับแรก คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย

นอกจากอาเซียนแล้ว ไทยยังได้ทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน -อินเดีย (ASEAN- India Free Trade Agreement : AIFTA) โดยมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ไทยได้ทำ FTA สองฝ่ายกับอินเดียแต่ครอบคลุมสินค้าเพียง 82 รายการ ที่สองประเทศเห็นว่าควรจะเร่งลดภาษีเป็นศูนย์ก่อน การที่ไทยได้ขยายการทำความตกลง FTA เป็นอาเซียน- อินเดีย โดยครอบคลุมสินค้ากว่า 4,700 รายการ จึงนับเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายการค้า เนื่องจากอินเดียเป็นตลาดใหญ่ ที่มีประชากรกว่าพันล้านคน โดยในปี 2552 ไทยกับอินเดีย มีมูลค่าการค้าระหว่างกันกว่า 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าสำคัญที่จะได้รับประโยชน์ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ตกแต่งบ้าน อัญมณี และเครื่องประดับ ด้าย และเส้นใยสังเคราะห์เป็นต้น

สำหรับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ (ASEAN-Australia-New Zealand Free Trade Area : AANZFTA) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากการที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เปิดตลาดเพิ่มมากขึ้น/เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองเท้า กระเป๋าหนัง ชิ้นส่วนยานยนต์ เคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดตลาดภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกที่จะนำเข้าวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำจาก 12 ประเทศ คือ อาเซียน 10 ประเทศและออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาขอใช้สิทธิภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ได้

นางสาววิบูลย์ลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2553 กรมการค้าต่างประเทศมีโครงการที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการในการใช้สิทธิประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการที่ประเทศคู่ค้าได้เปิดตลาดภายใต้ความตกลง FTA ต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคทั่วประเทศ ผู้ประกอบการและผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการสัมมนาได้ที่ www.dft.go.th หรือสอบถามที่สำนักสิทธิประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ ผ่านทางสายด่วน 1385

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4