อย่างไรก็ตาม การที่จะส่งเสริมให้เกิดการทำธุรกิจรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นรูปธรรมจริงจังและกว้างขวางนั้น นอกจากหน่วยงานธุรกิจจะต้องมีความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว ยังจำเป็นจะต้องใช้มาตรฐานเดียวกันในการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการทำธุรกรรมระหว่างกันด้วย ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การมีระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจที่เป็นเสมือนพื้นที่กลางในการที่จะให้หน่วยงานต่างๆ ใช้เป็นศูนย์ในการดำเนินธุรกรรมระหว่างกันด้วย
“กระทรวงไอซีที ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ คือ กำหนดแนวทางการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลในการทำธุรกรรมเชิงธุรกิจเพื่อจัดทำมาตรฐานกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานในลักษณะ Supply Chain ที่เกี่ยวข้องทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศตามมาตรฐานสากล รวมทั้งเสริมสร้างและพัฒนาเครือข่ายข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศของกลุ่มธุรกิจไอซีทีต่างๆ ทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศเพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อด้านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาฐานข้อมูลผู้ประกอบการไอซีทีในกลุ่มต่างๆ อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานสามารถเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงธุรกรรมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจสำหรับกลุ่มธุรกิจไอซีที โดยนำร่องร่วมกับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศให้สามารถสนับสนุนส่งเสริมการทำธุรกรรมทางธุรกิจในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเพื่อจัดเก็บข้อมูลกลุ่มธุรกิจไอซีทีต่างๆ เข้าสู่ระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ และสามารถนำส่งข้อมูลเพื่อให้บริการข้อมูลบนแผนที่ได้ อีกทั้งจัดอบรมให้ความรู้และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ องค์กรธุรกิจต่างๆ เห็นประโยชน์และเข้ามามีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมทางธุรกิจผ่านระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ ตลอดจนเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนสามารถเข้าถึงและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งดำเนินการพัฒนาธุรกรรมทางธุรกิจในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างทั่วถึงได้” นายธานีรัตน์ กล่าว
และเพื่อให้โครงการดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ กระทรวงฯ จึงได้จัดการสัมมนาเรื่อง “ระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจ” ครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจด้านไอซีทีเกี่ยวกับระบบทะเบียนกลางฯ รวมทั้งส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบทะเบียนกลางทางธุรกิจให้เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมได้จริง