เตรียมความพร้อมของสภาพร่างกาย ก่อนออกเดินทาง ๑ - ๒ วัน ผู้ขับขี่ควรนอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ ของมึนเมาและยาที่มีฤทธิ์ต่อประสาท หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลากลางคืน เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ควรออกเดินทางในช่วงใกล้รุ่งจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่หากมีอาการง่วงนอนหรือเมื่อยล้า ควรจอด
พักรถในสถานีบริการน้ำมันหรือบริเวณที่ปลอดภัย ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ได้แก่ ไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หากรู้สึกง่วงนอนในขณะขับรถให้หาที่พักรถริมข้างทางที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการคุยโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยในการสนทนา สวมหมวกนิรภัยและคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่หรือโดยสารยานพาหนะ ตลอดจนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
เตรียมความพร้อมด้านสภาพเส้นทาง เนื่องจากการขับขี่โดยไม่ชำนาญเส้นทาง อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า โดยสอบถามจากศูนย์ข้อมูลจราจร แผนที่ รวมถึงหนังสือคู่มือการเดินทาง เพื่อเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย และลดปริมาณการจราจรบนท้องถนน รวมทั้ง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง หากเป็นเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด สภาพถนนชำรุด ผู้ขับขี่ไม่ชำนาญเส้นทาง ให้ปฏิบัติตามเครื่องหมายหรือป้ายจราจรต่างๆ ริมข้างทางอย่างเคร่งครัด หรือหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นจะปลอดภัยมากกว่า เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากความไม่ชำนาญเส้นทาง ซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ ทั้งระบบเบรก ลมยางและดอกยาง หากยางรถยนต์มีรอยฉีกขาด ควรเปลี่ยนใหม่ทันที หมั่นตรวจดูใต้ท้องรถ หากมีรอยน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรกหรือมีรอยรั่วซึม ของน้ำในหม้อน้ำ ให้รีบดำเนินการซ่อมแซมทันที และตรวจอุปกรณ์ประจำรถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี เช่น ที่ปัดน้ำฝน สัญญาณไฟต่างๆ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค้อนทุบกระจก ยางอะไหล่ แม่แรง กากบาทถอดล้อ ลวดสลิงค์สำหรับลากรถ สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์ ส่องสว่างประเภทไฟฉาย น้ำมันเครื่อง และน้ำเปล่าสำหรับเติมหม้อน้ำ ติดรถไว้ใช้กรณีเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินสุดท้ายนี้ หากประชาชนที่เดินทางไกลในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาต้องใช้เส้นทางร่วมกับผู้ขับขี่ที่มีอาการเมาแล้วขับ ควรรักษาระยะห่างจากรถคันดังกล่าวให้มากที่สุด อย่าขับรถเข้าไปใกล้หรือแซงในระยะกระชั้นชิด เพราะอาจเกิดการเฉี่ยวชนได้ อีกทั้งควรเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องพฤติกรรมการขับขี่ที่ผิดปกติ หากพบเห็นควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมพฤติกรรม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การเดินทางไกลช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นไปด้วยความปลอดภัย