“ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว”
“ปัญหาวัยรุ่นตีกัน”
“ปัญหารักในวัยเรียน”
“ปัญหาขยะในชุมชนและโรงเรียน”
“ปัญหาผู้ใหญ่ไม่รับฟังความคิดเห็นของเด็ก”
“ปัญหา” “ปัญหา” ... ฯลฯ เหล่านี้เป็นบางส่วนของ “ปัญหา” ที่เกิดขึ้นจริง จากการระดมความคิดของเยาวชน ซี.ซี.เอฟ.กว่า 74 คนจากภาคอีสาน(ตอนบน) ที่มาเข้าร่วมโครงการฯ พวกเขาคือเหล่าเยาวชนต้นกล้าเล็กๆ ที่มุ่งมั่นตั้งใจร่วมกันสร้างสรรค์เขียนโครงการดีๆเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ท้องถิ่นบ้านเกิดของตนอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ
ภายใต้กระบวนการของค่ายฯ นำไปสู่แนวความคิดและรูปแบบกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม ต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆในละพื้นที่ ทำให้เยาวชนเห็นว่า ชุมชนเล็กๆของตนนั้นประกอบไปด้วยโครงสร้างของปัญหาที่ซับซ้อนมากมายหลายเรื่อง ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่หยิบยกกันขึ้นมาถกเถียงพูดคุยกันล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวพวกเขาเกือบทั้งสิ้น พวกเขาตระหนักรู้ทันทีหลังจากสิ้นประโยคคำสั่งจากวิทยากรผู้ช่วยชี้แนะให้เห็นถึงวิธีการเข้าถึงและความเข้าใจต่อปัญหา โครงการเล็กๆค่อยๆเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง เพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องราวบางอย่างในบ้านเกิดและชุมชน
เยาวชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องปัญหาการใช้ “ความรุนแรง” ที่เกิดขึ้นโดยเริ่มจากสังคมหน่วยเล็กๆคือ ครอบครัว ไปจนถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนและชุมชน เขาเห็นว่าความรุนแรงเหล่านั้นเกิดขึ้นมาจากปัญหาความสัมพันธ์ของคนครอบครัวเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการหย่าร้าง พ่อติดสุรา แม่ติดการพนัน ครอบครัวยากจน จนสุดท้ายผลกระทบตกอยู่ตัวเด็กและเยาวชน เกิดเป็นความรุนแรงทางจิตใจ(ที่มองไม่เห็น) ส่งผลต่อการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการทะเลาะวิวาทกัน เรื่องชู้สาว ปัญหารักในวัยเรียน การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ก่อนวัยอันควร ปัญหายาเสพติด เด็กติดเกมส์ ปัญหารถซิ่งในชุมชน ฯลฯ กลายเป็นวัฏจักรแห่งความรุนแรง หมุนวนภายในครอบครัว เกิดปัญหาโดยตรงต่อทุกคนในชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเมื่อช่วยวิเคราะห์ถึงปัญหา (Mind Map) กันอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พบว่า ปัญหาต่างๆ ต่างมีต้นเหตุและที่มาจากการขาดในเรื่องของ “จริยธรรม” “ความสามัคคี” และ “ประชาธิปไตย” ทั้งภายในบ้านและชุมชนเกือบทั้งสิ้น จึงเกิดเป็นโครงการดีๆมากมายที่เน้นให้เพื่อนๆเยาวชนรู้จักหน้าที่ของตนเองและทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม
กิจกรรมต่างๆที่เยาวชนกลุ่มนี้ช่วยกันคิดริเริ่มขึ้นมาจึงมีประเด็นสำคัญหลักคือการสร้างสัมพันธภาพที่ดีให้เกิดขึ้นในแต่ละครอบครัวเสียก่อน เริ่มจากจุดที่เล็กที่สุดในชุมชน เพื่อสร้างความอบอุ่นที่ยิ่งใหญ่ให้ค่อยๆเกิดขึ้นในชุมชนต่อไป
สิ่งสำคัญคือ ที่มูลนิธิฯเร่งปลูกฝังจึงไม่ใช่แค่การทำความเข้าใจต่อปัญหาดังกล่าว แต่การสนับสนุนโครงการเล็กๆเหล่านั้นคือความตั้งใจที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริงในทุกปัญหาและทุกชุมชน
ความปรารถนาดีในครั้งนี้ของมูลนิธิฯ จะจนเกิดเป็นโครงการฯ เพื่อเด็ก เยาวชนและชุมชนต่อไป ทำให้เยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของตนเอง และเห็นถึงประโยชน์สุขของชุมชนบ้านเกิด ตลอดจนความสงบสุขของประเทศชาติ ด้วยเชื่อว่าโลกที่สวยงาม คือโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต สิ่งที่ผู้ใหญ่สามารถทำได้ดีที่สุดก็คือ การปลูกฝังเมล็ดพันธ์แห่งความดีงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกัน รู้จักยับยั้งชั่งใจและมีหัวใจในการขับเคลื่อนพลังเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมรอบด้านที่พวกเขาต้องพบเจออย่างเข้มแข็ง ผลสัมฤทธิ์ จากโครงการเล็กๆที่เกิดขึ้นในค่ายแห่งนี้ คงเป็นประกายไฟดวงน้อยที่ส่องสว่างความหวังให้กับชุมชน “ความหวังเล็กๆที่งดงาม” กำลังเบ่งบานทั่วประเทศไทยอย่างแข็งแรง