ปภ. สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓

พุธ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๐ ๑๗:๕๔
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยในช่วงวันที่ ๑๐ —๑๙ตุลาคม ๒๕๕๓ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๑๗ จังหวัด ๔๒ อำเภอ ๒๖๗ ตำบล ๗๘๕ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๒๑,๗๖๑ ครัวเรือน ๕๔,๘๔๑ คน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ๓๒,๔๒๘ ไร่ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ๑๓ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๔ จังหวัด และครั้งล่าสุดในช่วงวันที่ ๑๐ —๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๑๗ จังหวัด ๑๐๑ อำเภอ ๕๕๗ ตำบล ๓,๙๗๓ หมู่บ้าน ได้แก่ ระยอง ตราด สระแก้ว นครราชสีมา ปราจีนบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ชัยภูมิ สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ ตาก สุรินทร์ บุรีรัยม์ และขอนแก่น ผู้เสียชีวิต ๑๑ ราย ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๕๓ ประเทศไทยได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ รวม ๕ ครั้ง โดยสถานการณ์อุทกภัยครั้งที่รุนแรงสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมาก ได้แก่ ครั้งที่ ๔ ช่วงระหว่างวันที่ ๑๐ กันยายน — ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ พื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๑๗ จังหวัด ๔๒ อำเภอ ๒๖๗ ตำบล ๗๘๕ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๒๑,๗๖๑ ครัวเรือน ๕๔,๘๔๑ คน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ ๓๒,๔๒๘ ไร่

ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ๑๓ จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ๔ จังหวัดได้แก่ พิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งใน ๔ อำเภอ ๑๔ ตำบล ได้แก่ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนางราง และโพทะเลชัยนาท น้ำท่วมพื้นที่ ๓ อำเภอ ๑๗ ตำบล ๑๗๕ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๑๑,๓๒๑ ครัวเรือน ๓๒,๔๖๙ คน ได้แก่ อำเภอเนินขาม หันคา และสรรพยา อ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอป่าโมก ๒ ตำบล ปัจจุบันยังคงมี น้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มบางพื้นที่ พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน ๕ อำเภอ ๕๔ ตำบล ๒๙๗ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๔,๔๙๔ ครัวเรือน ๑๓,๙๗๗ คน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางไทร มหาราช ผักไห่ และบางบาล สำหรับสถานการณ์อุทกภัยครั้งที่ ๕ ช่วงระหว่างวันที่ ๑๐ กันยายน — ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓

ซึ่งเป็นสถานการณ์อุทกภัยครั้งล่าสุดที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก และถือว่าวิกฤติที่สุดในรอบหลายปี มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม ๑๗ จังหวัด ๑๐๑ อำเภอ ๕๕๗ ตำบล ๓,๙๗๓ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๑๑ ราย ได้แก่ ระยอง น้ำท่วมในพื้นที่ ๒ อำเภอ ๖ ตำบล ๓๒ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง และวังจันทร์ ตราด เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในพื้นที่ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะช้าง และแหลมงอบ สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่ ๔ อำเภอ ๑๐ ตำบล ๑ เทศบาล ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ วังน้ำเย็น ตาพระยา และโคกสูง นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ ๒๔ อำเภอ ๒๓๘ ตำบล ๑,๖๕๓ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๓ ราย สูญหาย ๑ ราย ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา สูงเนิน ขามทะเลสอ โนนแดง เสิงสาง คง หนองบุญมาก จักรราช เทพารักษ์ ด่านขุนทด บ้านเหลือม โนนสูง โชคชัย พิมาย โนนไทย ห้วยแถลง ปากช่อง สีคิ้ว ปักธงชัย ขามสะแกแสง เฉลิมพระเกียรติ พระทองคำ บัวใหญ่ และครบุรี ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ ๒ อำเภอ ๔ ตำบล ๑๔ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอนาดี และกบินทร์บุรี ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ ๑๑ อำเภอ ๑๒๐ ตำบล ๑,๐๑๒ หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต ๒ ราย ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี โคกสำโรง ชัยบาดาล พัฒนานิคม ลำสนธิ ท่าหลวง หนองม่วง สระโบสถ์ โคกเจริญ บ้านหมี่ และท่าวุ้ง นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ ๕ อำเภอ ๒๕ ตำบล ได้แก่ อำเภอตาคลี ลาดยาว หนองบัว ท่าตะโก และไพศาลี ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่๗ อำเภอ ๑๓ ตำบล ๑๓๒ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส และบ้านเขว้าสระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ ๘ อำเภอ ๓๙ ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี บ้านหม้อ พระพุทธบาท มวกเหล็ก แก่งคอย วังม่วง เสาไห้ และเฉลิมพระเกียรติ เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ ๕ อำเภอ ๔๙ ตำบล ๒๗๑ หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หนองไผ่ ศรีเทพ บึงสามพัน และวิเชียรบุรีนครนายก น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบ้านนา ๒ ตำบล ราษฎรเดือดร้อน ๕๐๐ ครัวเรือน ๑,๕๐๐ คนสุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ ๓ อำเภอ ๙ ตำบล ได้แก่ อำเภอสามชุก หนองหญ้าไทร และเดิมบางนางบวช ศรีสะเกษ น้ำล้นสปริงเวย์เข้าท่วมในพื้นที่ตำบลกันทรอม อำเภอขุนหาญ ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ตาก น้ำท่วมในพื้นที่ ๖ อำเภอ ๓๙ ตำบล ๑เทศบาลนคร ๒๖๗ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๓๐,๓๓๒ ครัวเรือน ๑๐๐,๐๐๖ คน ได้แก่ อำเภออุ้งผาง พบพระ แม่สอด ท่าสองยาง แม่ละมาด และบ้านตาก สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ ๗ อำเภอ ๓๓ ตำบล ๒๕๒ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๒๕,๔๒๒ ครัวเรือน ๙๖,๕๙๔ คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สังขะ บัวเชด ศรีขรภูมิ ศรีณรงค์ ชุมลพบุรี และกาบเชิง บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ ๑๑ อำเภอ ๖๒ ตำบล ๔๘๕ หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน ๑๓,๒๗๕ ครัวเรือน ๕๑,๘๗๗ คน มีผู้เสียชีวิต ๔ คน ความเสียหายอยู่ในระหว่างการสำรวจ ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหารทราย นางรอง หนองหงส์ ลำปลายมาศ และชำนิ ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ ๒ อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูผาม่าน และบ้านไผ่

นอกจากนี้ ภาวะฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเส้นทางสายต่างๆ รวม ๑๓ สาย ดังนี้ นครราชสีมา ๗ สาย ได้แก่ สาย ๒ ปากช่อง-ชัยภูมิ อำเภอปากช่อง กม.๗๓-๙๕ สาย ๒๐๔ เลี่ยงเมืองนครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา กม.๔-๑๐ สาย ๒๐๕ ชัยภูมิ-โนนไทย อำเภอพระทองคำ กม.๓๙๖-๔๐๓ สาย ๒๒๔ ตอนหัวทะเล-โชคชัย-ครบุรี อำเภอเมืองนครราชสีมา กม.๐-๓๔ สาย ๒๒๖ นครราชสีมา-จักราช อำเภอจักรราช กม.๓-๓๔ สาย ๒๐๖๘ ทางเข้าอำเภอขามทะเลสอ อำเภอขามทะเลสอ กม.๑-๓ สาย๓๐๔ บ้านตะขบ-ปักธงชัย อำเภอปักธงชัยและอำเภอเมืองนครราชสีมา กม.๑๐๒-๑๓๓ สระแก้ว ๑ สาย ได้แก่ สาย ๓๓๖๖ ท่าข้าม-หนองเอี่ยน อำเภออรัญประเทศ ชัยภูมิ ๑ สาย ได้แก่ สาย ๒๐๓๗ ผักปัง-เกษตรสมบูรณ์-ชัยภูมิ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ กม. ๗-๓๕ นครสวรรค์ ๑ สาย ได้แก่ สาย ๑๑ ตากฟ้า-ไพศาลี อำเภอไพศาลี กม. ๒๐-๒๕ ลพบุรี ๒ สาย ได้แก่ สาย ๒๐๕ ฉลุงเหล็ก-โคกสำโรง-ลำนารายณ์-ลำสนธิ อำเภอโคกสำโรง กม.๑๙๐-๒๕๘ สาย ๒๐๕ บ้านหมี่-โคกสำโรง อำเภอโคกสำโรง กม.๑๕-๑๖

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบน ๑๖๑ ลำ รถผลิตน้ำ ๑๒ คัน รถบรรทุกน้ำ ๙ คัน รถบรรทุกขวดน้ำ ๑ คัน รถแบ๊คโฮ ๔ คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง ๔ คัน รถเครน ๒ คัน รถบรรทุก ๑๔ คัน รถบรรทุกติดปั่นจั่น ๒ คัน รถบรรทุกเทท้าย ๔ คัน รถกู้ภัย/ตรวจการณ์ ๒ คัน เต็นท์พักอาศัยชั่วคราว ๖๔ หลัง เครื่องสูบน้ำ ๑๕ เครื่อง กำลังพล ๑๑๓ นาย ยาสามัญประจำบ้าน ๑๙๐ ชุด และถุงยังชีพ ๒๘,๐๘๖ ถุง สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

0-2243-0674 0-2243-2200

www.disaster.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4