MPA นิด้า แนะ ธปท.ใช้ความยืดหยุ่นบริหารนโยบายการเงิน

พุธ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๑๐ ๑๑:๔๔
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ MPA นิด้า แนะ ธปท.ใช้ความยืดหยุ่นในการบริหารนโยบายการเงิน รองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจและการเงินโลก ชี้ประชุมกนง. 20 ต.ค มีโอกาสคงหรือลดดอกเบี้ยในตลาดอาร์พี 1 วันได้ทั้งนั้น เพียงแต่ต้องเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมเสนอประชุมรอบพิเศษให้มากขึ้น เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ ระบุไทยอยู่ท่ามกลางสงครามเงินตราระหว่างสหรัฐฯและจีน ทั้ง ธปท.และภาครัฐต้องหามาตรการเสริม พยุงผู้ประกอบการและเศรษฐกิจ

รองศาสตราจารย์ ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการ MPA Executive Program Bangkok สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วันที่ 20 ตุลาคมนี้ ธปท.ควรพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอย่างรอบคอบและรัดกุมในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยใช้หลักความยืดหยุ่นในการตัดสินใจมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและระบบการเงินโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การพิจารณาโดยยึดกรอบปฏิบัติที่เคร่งครัด อาจทำให้การปรับตัวไม่เป็นไปอย่างทันท่วงที ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ในที่สุด

“การประชุม กนง.ในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ แบงก์ชาติอาจจะคงดอกเบี้ยหรืออาจจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงก็ได้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะหากเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าก่อนหน้านี้ แบงก์ชาติจะเพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 2 ครั้ง และอาจจะเห็นว่า ยังไม่ควรเปลี่ยนทิศทางของนโยบายการเงินอย่างรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมว่า การตัดสินใจครั้งนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดี หากจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการเงินในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ตลาดเข้าใจได้” รองศาสตราจารย์ ดร.มนตรีกล่าว

นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้ กนง.ควรจัดประชุมนอกรอบให้มากขึ้น จากปกติที่จะมีการประชุมทุก 6 สัปดาห์ เนื่องจากมองว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีการหารือเพื่อกำหนดทิศทางให้รวดเร็วขึ้น เพราะบางครั้งหากรอการประชุมตามวาระ ก็อาจจะทำให้นโยบายการเงินของไทยไม่สามารถสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงภายนอกได้ทันท่วงที

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า สถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น เกิดขึ้นท่ามกลางมรสุมสงครามค่าเงินระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน เนื่องจากขณะนี้จีนกำลังก้าวขึ้นสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกประเทศหนึ่ง ในขณะที่สหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจโลกกำลังเปราะบาง แต่จีนกลับเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ดีอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศอันดับแรกของกลุ่มมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ พยายามรักษาสถานภาพการเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ โดยกลไกลสำคัญ คือ การทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยการเสริมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ (QE1) และเพื่อให้เงินดอลลาร์ท่วมเอเชียที่มีภาวะเศรษฐกิจที่ดีกว่า ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศไทยที่พึ่งพาภาคต่างประเทศในสัดส่วนสูงถึง 73% ของ GDP และทำการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นหลัก ทำให้ได้รับผลกระทบจากภาวะที่เกิดขึ้นอย่างมาก

ผู้อำนวยการ MPA Executive Program Bangkok นิด้า กล่าวด้วยว่า หน้าที่หลักของ ธปท. คือ การดูแลเสถียรภาพของระดับราคาในประเทศหรือระดับอัตราเงินเฟ้อ และรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน ซึ่งเมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ กับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 1.2% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว ดังนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในการประชุมครั้งที่ผ่านมา จึงถือเป็นการตอบรับกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เร็วเกิดขึ้น จนส่งผลกระทบต่อค่าเงินสกุลเงินในประเทศเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุนสามารถเข้ามาเก็งกำไรจากส่วนต่างที่เกิดขึ้นได้ ขณะที่ในเดือนหน้า สหรัฐฯจะดำเนินมาตรการ QE2 ซ้ำเข้ามาอีก ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะไทยย่อมได้รับผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินอีกระลอก

ดังนั้น ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ธปท. จึงควรจะชั่งน้ำหนักการทำหน้าที่ให้ดีและเหมาะสม ว่า ควรจะให้น้ำหนักในการรักษาเสถียรภาพของระดับราคาในประเทศ ซึ่งก็คือ ระดับอัตราเงินเฟ้อหรือรักษาเสถียรภาพของค่าเงินมากกว่ากัน

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์

บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด(ในนามหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์)

พิภพ ฆ้องวง (ท๊อป)

โทร. 02-248-7967-8 ต่อ 118, 08-1929-8864

Email address : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4