นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ ว่า คณะกรรมการชุดนี้ได้มีแนวทางในการขับเคลื่อนหอการค้าไทย ในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยมีงานสำคัญที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่อง ที่จะต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 4เรื่องหลัก คือ
1.แผนยทุธศาสตรป์ระเทศไทย
ปีน้ีเข้าสู่ปีที่ 3 แล้วสาหรับการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งนับตั้งแต่ที่เราประกาศแผน ได้สร้างความตื่นตัวในการกำหนดทิศทางประเทศต่อ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนด้วยกันเราได้รับเชิญจากหน่วยงานราชการหลายแห่งให้ไป ให้ความเห็นต่อการกำหนดแผนงานในระดับนโยบายโดยเฉพาะอย่าง ยิ่งสภาพัฒน์ซ่ึงช่วงเวลาที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ซึ่งมีกำหนดในการเริ่มใช้ในปีหน้า แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยประกอบไปด้วย 6 ยทุธศาสตร์หลัก 7 กลุ่มธรุกิจ และ 18 กลุ่มจังหวัดในปี 2553 เราได้ดำเนินการไปสู่ระดับกลุ่มจังหวัด เน้นไปที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในปี 2554 นี้จะเน้นการปรับโครงสร้างทางการค้า และการส่งเสริมจริยธรรมและธรรมาภิบาล เช่นธุรกิจเกษตรประมงและอาหาร มีโครงการขยายมาตรฐาน ThaiGap ไป ยังหอการค้าจังหวัดที่มีความพร้อมธุรกิจการค้าชายแดน โครงการเส้นทางคมนาคมทางน้ำรวมกัน 3 ประเทศ ไทย กัมพูชาและเวียดนามสร้างเส้นทางเชื่อมโยงทางการค้าและการท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่ง เป็นการพัฒนาระบบขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยการจัดทำและใช้ ระบบมาตรฐานฝีมือแรงงาน พร้อมกำหนดอัตราค่าจ้างให้สอดคล้องกัน
2. การเสริมสร้างเครือข่ายหอการค้าจังหวัดอย่างต่อเนื่อง
1 ใน 3 ของหอการค้าจังหวัดมีความแข็งแกร่งมากมีบทบาทนำและมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยราชการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในท้องถิ่นอีก 1 ใน 3 เข้มแข็งและมีการประสานงานในระดับที่ลดหลั่นลงไปส่วน ที่เหลือพวกเราคงต้องช่วยกันพัฒนาให้สามารถขึ้นมาอยู่ในระดับที่แข็งแรง
ปัจจุบัน หอการค้ามีโครงข่ายที่กว้างขวางและในปีหน้าก็จะก้าวสู่ปีที่ 80 ของ การก่อตั้งเราได้รับการยอมรับและเป็นที่เชื่อถือขององค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เราจะมีหอการค้าที่เข้มแข็ง 76 หอมีหอการค้าต่างประเทศที่ ประสบการณ์สูง 30 หอ มีสมาคมการค้า112 สมาคมและมีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นแหล่งข้อมูล ที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสูงด้วยโครงข่ายเหล่านี้ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าหากเราดำเนินการอย่างสอด ประสาน เหมือนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เราก็จะเป็นองค์กรที่สามารถชี้นำอนาคต ประเทศไทยได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ “และวิธีที่ดีที่สุดในการคาดการณ์ อนาคต คือ การลงมือทำด้วยกัน”
3.การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
เป็นภารกิจที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จากประกายความคิดของกรรมการกลุ่มเล็กๆ จนมาเป็นมติที่ประชุมหอการค้าไทยแล้วเห็นผลอย่างเป็น รูปธรรมในโครงการ 1 ไร่ 1 แสนและ 1 บริษัท 1 ชุมชน เราจะต้องช่วยกันรณรงค์ต่อไปร่วมกันแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมซึ่ง จะอยู่ในสายเลือดของพวกเรา เมื่อทุกจังหวัดมีความคิดเพื่อสังคม พลังขับเคลื่อนเหล่านี้จะทำให้พวกเราเป็น “ผู้นำ” ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อการพัฒนาสังคมรอบข้างอย่างแท้จริง
4.การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน
ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้หอการค้าไทยจะร่วมกับเครือข่ายการต่อต้าน คอร์รัปชัน เชิญเจ้าหน้าที่Independent Commission Against Corruption หรือ เรียกสั้นๆว่า ICAC ของฮ่องกงมาเล่าประสบการณ์ของเขาที่สามารถลดลำดับ จากประเทศที่มีการคอร์รัปชันมากเมื่อ 40 ปีที่แล้วจนมาบัดน้ีเป็นประเทศที่มี การทำงานโปร่งใสในลำดับต้นๆ ของโลก หัวใจสำคัญของการป้องกันทุจริตและคอร์รัปชันนั้น ผู้นำรัฐบาลต้องเอาด้วย ประชาชนตั้งแต่เด็กและผู้ใหญ่ต้องมีความกล้าและมีจิตสำนึกในการปฏิเสธการทุจริตทุกรูปแบบ ซึ่งหอการค้าไทยของเรา ได้จุดประกายเรื่องนี้แล้ว และจะรณรงค์ต่อไปอย่างเป็นระบบเรามีคุณนันดอร์ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก คุณพงษ์ศักดิ์ เป็นผู้รับผิดชอบรอง และมีคุณกอบกาญจน์ เป็นผู้ช่วย ทั้ง 3 ท่าน ได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้ได้ผลที่เป็นรูปธรรม ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการกระจายข่าวสาร เพื่อสร้างความตื่นตัวแก่ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป โดยจะมีแผนงานที่ชัดเจน ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป
ส่วนโครงการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทางราชการ (IntegrityPact) ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้เข้ามารับผิดชอบดูแลหอการค้าไทย เป็นองค์กรภาคเอกชนไทยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของภาคธุรกิจที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาตลอดระยะเวลา 79 ปี พร้อมมุ่งมั่นให้องค์กรหอการค้า สร้างกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกและเศรษฐกิจของประเทศ
ประชาสัมพันธ์ โทร. 02-6221860-76 ต่อ 402-7