FOR Wall Painting 2
26 มีนาคม 2554 — 25 กันยายน 2554
บริเวณทางขึ้นชั้น 7 — ชั้น 9
ผู้จัด: หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เปิดนิทรรศการ: เสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 เวลา 18:30น. ชั้น 7
หอศิลปฯ กรุงเทพ คืนสีสันบนผนังทางเดินของชั้นนิทรรศการอีกครั้ง ใน “FOR Wall Painting 2” นำเสนอศิลปะร่วมสมัยแนว post-graffiti ของศิลปินรุ่นใหม่ 16 คน ด้วยเทคนิคการสร้างสรรค์ที่หลากหลาย และประสบการณ์เฉพาะที่ได้รับการหล่อหลอมภายในวัฒนธรรมความเป็นเมืองสมัยใหม่ เปิดให้ชมตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 มีนาคมเป็นต้นไป
หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชวนชมศิลปะบนผนังครั้งที่ 2 ในนิทรรศการ “FOR Wall Painting 2” ซึ่งเปิดให้ชมตั้งแต่วันเสาร์ที่ 26 มีนาคมไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2554 ระยะเวลา 6 เดือนเต็ม โดยเป็นการนำเสนอศิลปะบนผนังในแนว Post-graffiti ซึ่งศิลปินได้ประยุกต์รูปแบบงาน graffiti มาสร้างสรรค์ในสไตล์งานของตัวเอง ออกนอกระบบแบบแผน ด้วยเทคนิคการทำงานที่หลากหลาย ไม่เพียงเฉพาะการใช้สีสเปรย์พ่น แต่ยังใช้ อะคลิลิก พาสเทล และเทคนิคการสกรีนไปบนผนัง
ศิลปินที่ร่วมสร้างสรรค์ศิลปะบนผนังครั้งนี้ รวม 16 ท่าน ได้แก่ P7, Yuree, ZIDS, Mamafaka, cider, Never, May-T, 01, Tawan, Narissara, Rukkit , Miss Ink, Logan Bay, Wanapracha, TRK และ Space Limo โดยศิลปินกลุ่มนี้มีพื้นฐานการทำงานศิลปะที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งศิลปะแนว Post-graffiti ก็สามารถพบเห็นได้ไม่ยากในปัจจุบัน จากการที่ศิลปินได้ประยุกต์และผสมผสานงาน graffiti ลงบนข้าวของเครื่องใช้และที่พักอาศัยรอบตัว เช่น เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบ ร้านอาหาร ฯลฯ แต่ในครั้งนี้ เป็นการนำ Post-graffiti ขึ้นบนผนังทางเดินของหอศิลปฯ เพื่อเปิดให้ผู้ชมสาธารณะ ได้ชมด้วยใจที่เป็นอิสระ
ด้วยแนวคิดแบบ Brave New World by Post-Graffiti Blood ศิลปินทั้ง 16 คนพร้อมประสบการณ์เฉพาะที่ได้รับการหล่อหลอมภายในวัฒนธรรมความเป็นเมืองสมัยใหม่ ได้ถ่ายทอด ความรู้สึกนึกคิด และความสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวในเทคนิคและลีลาที่ถนัด ภาพเขียนแต่ละส่วนแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งโกลาหลที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่รวมกัน เนื้อหาที่เป็นจินตนาการเฉพาะ ประสบการณ์ส่วนตัวที่เบาหวิว ไร้เหตุผล หรือหนักแน่น กำเนิดขึ้นอย่างกล้าหาญ พันธนาการแห่งสุนทรียะถูกปลดปล่อย เพื่อการรับรู้จากสังคม เป็นอิสระจากการครอบงำโดยมาตรฐานใดมาตรฐานหนึ่ง และเป็นการสร้างต่อสุนทรียะของศิลปะบนผนังในที่สาธารณะให้ไปไกลขึ้น
ขณะที่สร้างสรรค์งานแห่งตัวตน ก็เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยน จากความแตกต่างที่เคยเป็นความขัดแย้งสุดขั้ว บังเกิดเป็นชุมชนใหม่ เป็นความสมดุลที่ดำรงอยู่ในความแตกต่างนั้นเอง ไม่ใช่การหลอมรวมแต่เป็นการคงเนื้อหาที่สะท้อนปัจเจกและความเป็นทั้งหมดที่มีต่อกัน การสร้างสรรค์จึงไม่ใช่แค่งานของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นทั้งกระบวนการที่นำพาตัวตนของศิลปินทั้งหมดที่ต่างเปล่งเสียงออกมาจากผนังที่เคยเงียบเชียบไร้ชีวิตนั้นว่า
“มาดูฉันซิ ไม่สำคัญว่าคุณมองฉันในด้านดีหรือไม่ แต่มาดูฉันซิ”
มาวันนี้ผืนผนังและพวกเขากลับขับเน้นพื้นที่รอยต่อแห่งนี้ขึ้นมาด้วยการปลดแอกและให้โอกาสตัวเอง ก่อนจะชวนให้ผู้ชมสาธารณะเห็นว่าการมาถึงและการรวมตัวของพวกเขาไม่ใช่โลกแห่งการปะทะทำลาย แต่เป็นโลกแห่งการปะทะสังสรรค์ ด้วยความกล้าหาญแห่งตัวตนที่ท้าทายมิติการรับรู้และปรับตัวให้เข้ากับความเป็นไปที่มีอยู่จริง ความกล้าหาญของเราทั้งหมดนั้นก็เพื่อการนับถือกันในฐานะปัจเจก ไม่ใช่เพื่อการยกย่องบูชา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
โทร. 02-214 6630-8, email: [email protected]