สำหรับผลงานเด่นๆ ในครั้งนี้จะประกอบด้วย ผลงานของอาจารย์สุจินตน์ ตรีณรงค์ ศิลปินอาวุโส ที่มีชื่อว่า ““แดดในสายหมอก”(ภาพที่ 1) ซึ่งเป็นศิลปินจากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะจิตรกรรมฯ ที่สร้างผลงานจากความรู้สึกที่ได้รับจากสถานที่จริง “แก่งกระจาน” ที่มีธรรมชาติยามเช้าที่มีเมฆหมอกที่สวยงามและสงบเงียบ
ผลงานอันดับที่ ๒ เป็นผลงานสร้างสรรค์ส่วนตัวของ อาจารย์ไพโรจน์ วังบอน หัวหน้าภาควิชาจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรที่มีชื่อว่า “ดุลยภาพของชีวิต” ก็มอบผลงานชิ้นเอกให้กับงานนี้มาเพื่อจัดแสดงและจำหน่ายหาทุนให้กับนิสิตนักศึกษา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ จากการประมูลผลงาน “ตึกยาว”ของสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัยฯ ผลงาน “ตีกยาว”ของอาจารย์ได้รับการประมูลไปด้วยราคา ๑.๒ ล้านบาทจาก คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม แห่งแกรมมี่
ผลงานอันดับที่ ๓ ผลงานของอาจารย์อนุพงษ์ จันทร อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่มีชื่อว่า “ภาพร่างในความคิด” ปัจจุบันนี้ถือว่าอาจารย์อนุพงษ์ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินชั้นเยี่ยมของประเทศ ด้วยการชนะการประกวดศิลปกรรมแห่งชาติ ๓ ปีซ้อน โดยประวัติแล้ว อาจารย์เคยได้รับทุนจากกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ ของ “มูลนิธิพลเอก เปรม ติณสูลานนท์”ในปี ๒๕๔๙ ที่ผ่านมาอาจารย์ได้มาร่วม Art Camp อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมอบผลงานให้เพื่อนำไปจำหน่ายหาทุนเป็นทุนการศึกษาให้กับนักศึกษารุ่นน้องๆ เสมอ
ผลงานอันดับที่ ๔ เป็นผลงานปั้นเซรามิคของนายจำลอง สุวรรณชาติ นักวิชาการช่างศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และเคยได้รับทุนจากกองทุนฯ ในปี ๒๕๕๑ ที่ได้มอบผลงานที่สวยสดงดงามที่มีชื่อว่า “Fish” ให้กับงานแสดงในครั้งนี้ นอกเหนือจากที่ได้เข้าร่วม Art Camp อย่างสม่ำเสมอมา เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับรุ่นน้องๆ ที่ได้รับทุน ในสาขาประติมากรรม เพื่อได้ทำงานร่วมกันที่โรงงานเซรามิคห้างหุ้นส่วนเถ้าฮงไถ่ จ.ราชบุรี
นิทรรศการศิลปกรรม Art Camp ประจำปี ๒๕๕๔ จะจัดแสดง และจำหน่ายเพื่อนำรายได้สมทบเข้ากองทุนฯ โดยความมุ่งหวังเพื่อนำไปจัดสรรช่วยเหลือ นิสิต นักศึกษาด้านศิลปะที่มีความประพฤติดี ผลการเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทปีสุดท้าย ของมหาวิทยาลัยที่มีการเรียนการสอนด้านศิลปะทั่วประเทศ โดยขอเชิญผู้มีจิตอันเป็นกุศล และผู้สนใจได้ร่วมเข้าชมและเลือกซื้อผลงานศิลปกรรมดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ สิงหาคม ศกนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐-๒๒๔๑-๐๐๘๘ และ www.bangkokartnews.com