ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ สนทนาประเด็น “ปฎิรูปการศึกษาของไทยในรัฐบาลชุดใหม่ “

พฤหัส ๐๑ กันยายน ๒๐๑๑ ๑๓:๓๖
การปฎิรูปการศึกษาของไทยเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมายาวนาน ข้อมูลวิจัยล่าสุดจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อเร็วๆนี้ก็ได้เผยถึงความล้มเหลวของการศึกษาไทย ทั้งในด้านระดับเชาวน์ปัญญาของเยาวชนและสัมฤทธิ์ผลในวิชาหลักค่อนข้างต่ำ

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ประธานกรรมการ โรงเรียนนานาชาติ เดอะรีเจ้นท์ ( The Regent’s School ) กูรูนักการศึกษาผู้มากประสบการณ์ทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ได้แสดงข้อคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจในโอกาสที่ได้รับเชิญจากสถานีโทรทัศน์ Spring News TV ไปสนทนา 2 ครั้งในหัวข้อประเด็น “ ปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยในรัฐบาลชุดใหม่ “ คือ วันที่ 22 มิย. 2554 รายการปอกเปลือกข่าว ดร.วีระชัย ร่วมสนทนากับตัวแทน 2 พรรคใหญ่ คือ คุณชินวรณ์ บุญเกียรติ รมต.กระทรวงศึกษาธิการ ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และคุณสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ในนามพรรคเพื่อไทย และอีกครั้งในวันที่ 23 ก.ค. 2554 รายการพันธกิจประเทศไทย ดร.วีระชัย ร่วมสนทนากับคุณวีระ พลอยครบุรี ผู้อำนวยการกองงานเลขานุการ สภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ข้อคิดเห็นของดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ เป็นมุมมองที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจยิ่งต่อการปฏิรูปการศึกษาไทย

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ นโยบายของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ของไทยในช่วงที่มีการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า โดยทั่วไปแล้วนโยบายด้านการศึกษาที่ทั้ง 2 พรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงนั้นมีประโยชน์ แต่เป็นนโยบายที่ต้องการให้คนเห็นผลรูปธรรมในระยะสั้น ยังมีปัญหาสำคัญในโครงสร้างลึกๆของปัญหาการศึกษาไทยที่ต้องใช้เวลาแก้ในระยะยาว และต้องเริ่มแก้กันตั้งแต่วันนี้ การปฏิรูปการศึกษาจึงต้องลงลึกถึงแก่นของปัญหาและเห็นว่าควรเอาคนภายนอกที่มีประสบการณ์มารอบด้านมาปฏิรูป จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ โดยตั้งเป็นคณะกรรมการแห่งชาติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง รัฐบาลชุดไหนจะไป จะมา งานปฎิรูปการศึกษาของประเทศก็ยังทำได้ต่อเนื่องและปลอดจากการครอบงำทางการเมือง ส่วนในการปฎิบัติ แน่นอนต้องให้ฝ่ายการเมืองผลักดันในการลงมือปฏิบัติตามแผนปฏิรูปนั้น

การปฏิรูปการศึกษาจะต้องสนองตอบการพัฒนาชาติและการแก้ปัญหาคอรัปชั่นของชาติ จึงต้องเริ่มจากพัฒนาคนด้วยการศึกษาองค์รวม (Holistic Education) โดยให้มี ปัญญาดี (Good Head) และจะต้องมี จิตใจดี ( Good Heart ) เพื่อนำมาซึ่ง ความเจริญก้าวหน้า ควบคู่กับ คุณธรรมความดีงาม ให้เกิดต่อตนเอง ,ครอบครัว, องค์กรที่ทำงาน ,ชุมชนสังคมและประเทศชาติ เป็นการช่วยกันแก้ปัญหาการคอรัปชั่นที่เป็นปัญหาเรื้อรังและฝังรากลึกในทุกวงการมายาวนาน ซึ่งบั่นทอนขีดความสามารถและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศชาติ และด้วยระบบการศึกษาแบบองค์รวมที่ผสมผสานความแข็งแกร่งทั้งด้านวิชาการและคุณธรรม จะทำให้นักเรียนเติบโตเป็นผู้นำที่ดี...ที่ประเทศชาติ และโลกต้องการ ผู้นำหมายถึงเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่นทำตามได้ ไม่ใช่เก่ง แล้วเอาเปรียบคนอื่น หรือ เก่งแล้วไปโกงคนอื่น

ปฏิรูปการศึกษา เป็นเรื่องที่พูดกันมากจนไม่ทราบว่าจะเริ่มแก้กันตรงไหนดี หัวใจสำคัญ คือ ทำอย่างไรจึงจะให้เด็กทุกคนมีความสุขในการเรียนทุกวิชา ? ปัญหาในสังคมที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่นั้น มักเกิดจากการที่นักเรียนเรียนไม่รู้เรื่องและไม่มีความสุขในการเรียน จึงต้องสร้างปมเด่น ประพฤติเกเร จึงควรที่จะนำเอาหลักการบริหารจัดการมาเพิ่มประสิทธิภาพของการเรียนการสอน ด้วยการใช้ เทคนิค Setting เช่น วิชาคณิตศาสตร์ นำผู้เรียนทั้งหมดมาคละกัน แล้วแบ่งเป็นเซ็ท A,B,C ตามระดับความสามารถของผู้เรียน วิธีการนี้จะเป็นการทำให้ครูผู้สอนสอนได้ง่ายขึ้น ในขณะที่นักเรียนเองก็จะสนุกกับการเรียนในกลุ่มที่มีระดับเดียวกัน ไม่มีปมด้อย หรือไม่ต้องกลัวว่าจะเรียนไม่ทันคนอื่น แต่เมื่อเป็นชั่วโมงภาษาอังกฤษ เด็กที่เก่งอยู่เซ็ท A คณิตศาสตร์อาจต้องมาอยู่เซ็ท C ของภาษาอังกฤษ เป็นต้น โดยที่ครูผู้สอนก็จะวางแผนพัฒนายกระดับให้นักเรียนในแต่ละเซ็ทให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น โดยที่ครูผู้สอนก็จะต้องถือโอกาสนี้สามารถสอนให้เด็กนักเรียนได้เข้าใจว่าชีวิตจริงของนักเรียนในโลกข้างนอกจะมีทั้งที่เราเด่นและเราด้อย

ที่สำคัญเราจะต้องชนะความด้อยนั้นในที่สุด นั่นคือครูจะต้องกระตุ้นเด็กที่เรียนอ่อนเหล่านั้นใน Set C ที่เริ่มเรียนรู้เรื่อง ให้คืบหน้าขึ้นไปสู่ Set B หรือ เขยิบขึ้น Set A ก็น่าจะได้ความสุขของนักเรียนในทุกวิชาซึ่งนับเป็นพื้นฐานที่เด็กต้องมีก่อนที่เราผู้ใหญ่จะสอนเขาในเรื่องวิชาการและในเรื่องคุณธรรมในกิจกรรมต่างๆ การจัดให้นักเรียนทำกิจกรรมจิตอาสาโดยที่เด็กไม่มีความสุขขั้นพื้นฐานนี้ รังแต่จะทำให้ความทุกข์ของทุกคนในชั้นเรียนรวมทั้งครูกลับเพิ่มมากขึ้น เพราะโอกาสที่จะมีการแกล้งกัน ประพฤติผิดระเบียบจะมากขึ้น

พูดกันบ่อยว่า เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Child ‘s Center) ต้องทำจริง มิใช่ทำผิวเผิน การเรียนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นหลัก ให้เด็กได้คิด ได้ประสบการณ์ตรงจากการปฎิบัติจริง โดยครูทำหน้าที่เป็นผู้คัดหางเสือ จะทำให้นักเรียนทุกคนมีความสุขกับการเรียนในทุกๆวัน ครูผู้สอนที่ทุ่มเทเอาใจใส่ บรรยากาศการเรียนการสอนที่ดี เรียนรู้เรื่อง เพื่อนร่วมชั้นเรียนหรือแม้แต่เพื่อนร่วมโรงเรียนก็มีอัธยาศัยที่ดี เมื่อนักเรียนมีความสุขก็ย่อมต้องการที่จะมาโรงเรียนทุกๆวัน ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิผลในการเรียนก็ต้องเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

การปลูกฝังคุณธรรมแก่นักเรียน ไม่ใช่เพียงแค่การสอนในชั่วโมงวิชาศีลธรรมและหน้าที่พลเมือง แต่ครูจะต้องสอดแทรกคุณธรรมอยู่ในกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาการต่างๆ โดยสอดคล้องกับสภาวะการณ์รอบตัว ให้นักเรียนได้ซึมซับ “คุณธรรม” ควบคู่ไปกับวิชาการ โดยลงมือปฏิบัติจริง ยกตัวอย่างชั่วโมงเรียนวิชาธุรกิจศึกษา ที่โรงเรียน เดอะ รีเจ้นท์ ครูมอบหมายให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อจัดตั้งเป็นบริษัท โกลด์ฟิช จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม เหล่านักเรียนได้ระดมทุนตั้งบริษัทจำลองขึ้นมา มีนักเรียนเป็นคณะกรรมการบริษัท มีนักเรียนเป็นซีอีโอบริหาร หลังเลิกเรียนมีการประชุมวางแผนหารายได้เข้าบริษัทฯโดยมุ่งเป้าหมายจะนำรายได้ไปช่วยสร้างบ่อเลี้ยงปลาแก่ครอบครัวคนพิการตาบอดในชุมชนอำเภอสัตหีบ ให้เขามีอาชีพเลี้ยงตัวได้อย่างยั่งยืน ในกิจกรรมสร้างรายได้เข้าบริษัทฯเป็นความคิดและการดำเนินงานของเหล่านักเรียน เช่น การจำหน่ายข้าวสารถุงจากกลุ่มเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ โดยตั้งชื่อแบรนด์”ข้าวสารตราโรงเรียน”มาจำหน่ายแก่ผู้ปกครองโดยไม่ต้องผ่านผู้ค้าคนกลาง , การจำหน่ายขนมและเครื่องดื่มในงานกิจกรรมต่างๆของโรงเรียน , ดีไซน์เสื้อยืดGold Fish ออกจำหน่าย โครงการนี้ได้กระตุ้นให้นักเรียนได้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานร่วมกันเป็นทีม การบริหารจัดการบริษัท การทำธุรกิจ และถือเป็นหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าในสังคม นับเป็นการสอนให้คิดเพื่อคนอื่นด้วย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ดูถูกผู้อื่น อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ นักเรียนระดมความคิดจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อหารายได้สมทบทุนเพื่อช่วยเหลือชาวมอแกน หรือ ยิปซีทะเล และร่วมลงมือก่อสร้างโครงการศูนย์ชุมชนนานาชาติเกาะพี.พี. (P.P.International Community Center - PICC) ที่บ้านแหลมตง จ.กระบี่ซึ่งต่อไปจะเป็นศูนย์กลางพัฒนาชุมชน กำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2554

ดังนั้น ครูผู้สอน จะต้องมีความรู้และคุณภาพมาตรฐานตามหลักสากลอย่างประเทศอื่นๆที่พัฒนาแล้ว ผู้ที่ต้องการเป็นครูต้องเรียนจบปริญญาตรีมาแล้วโดยมีพื้นความรู้ทางวิชาการสาขาใดสาขาหนึ่ง จากนั้นต้องเรียนการเป็นครูต่ออีก 2 ปี และสอบ QTS เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้านของการเป็นครู ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการสอน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ หลักจิตวิทยา โดยคำนึงถึงผู้เรียนเป็นหลักเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญบุคลากรก็ต้องมีคุณธรรมและจรรยาบรรณเช่นกัน เพราะจะทำให้การเรียนการสอนบรรลุเป้าหมายให้นักเรียนทุกคนมีความสุขในทุกวิชา

เช่นนี้ การปฏิรูปการศึกษาจะสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพและประเทศชาติต้องการ ทั้งลดปัญหาคอรัปชั่นและค่าสังคมที่นิยมคอรัปชั่นให้น้อยและหมดไป ทำให้ประเทศไทยที่เรารัก...แข็งแรงและมีความเจริญก้าวหน้าอย่างแท้จริง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๓๖ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัล Digital Transformation Initiative of the Year 2024 จากเวที Healthcare Asia Awards
๑๒:๐๐ กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปอย่างมีสไตล์ รายได้เพื่อชุมชน ครั้งที่ 14 เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ ติวานนท์ ชวนมาช้อป ชม ของดี ของเด็ดประจำจังหวัดปทุมธานี ระหว่าง 4 - 10
๑๒:๓๙ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ สนับสนุนพื้นที่ กรมพลศึกษา จัดแข่งขันกีฬากระบี่กระบองระหว่างโรงเรียน กิจกรรมสร้างสรรค์เสริมทักษะเยาวชน ส่งเสริม SOFT POWER
๑๑:๑๕ TOA ย้ำแชมป์สีเบอร์หนึ่ง คว้า 2 รางวัลใหญ่ 'สุดยอดองค์กร และแบรนด์สีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด' 13 ปีซ้อน Thailand's Most Admired Company Brand ปี
๑๑:๔๒ ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์
๑๑:๕๘ ศิษย์เก่าวิศวฯ SPU กว่า 5 ทศวรรษ ร่วมย้อนวันวานในงาน วิศวฯ คืนถิ่น SEAN HOMECOMING 2024
๑๑:๑๓ เฮงลิสซิ่ง ร่วมสืบสานประเพณีท้องถิ่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี ประจำปี 2567
๑๑:๔๕ YouTrip สาดความคุ้มต้อนรับสงกรานต์กับ 2 โปรพิเศษ 4.4 Travel Sale และ Japan Mega Cashback รับส่วนลดสุดคุ้มจากแบรนด์ท่องเที่ยวดัง และเงินคืนสูงสุด 2,000
๑๑:๕๒ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.รามคำแหง เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาวิชา อนาคตเศรษฐกิจไทย: ยืดหยุ่นและยั่งยืน
๑๑:๑๐ เจแอลแอล ประเทศไทย เผยเทรนด์ ESG ของปี 2567 และเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมสีเขียวของวงการอสังหาฯ