นายสันติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้การช่วยเหลือเยียวยา โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน เช่น การจัดทีมเข้าร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย การให้ความช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคเฉพาะหน้า การให้คำปรึกษาแนะนำต่างๆ ที่จำเป็น รวมทั้งระดมทรัพยากรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบกระจายในพื้นที่ ๑๑ อำเภอ โดยสรุปสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ จนถึงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ มีราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน ๙๐,๖๖๔ ครัวเรือน ๑๙๒,๐๓๕ คน ซึ่งหน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยไปแล้ว ดังนี้ ๑.การช่วยเหลือผู้เสียชีวิต จำนวน ๒ ราย (ราษฎรในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๒ และ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔) โดยมอบเงินช่วยเหลือ รายละ ๒,๐๐๐ บาท รวมเป็น ๔,๐๐๐ บาท ๒.การมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นการเฉพาะหน้า ในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๔ อำเภอหนองไผ่ จำนวน ๑๐๐ ราย วันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๔ ในอำเภอชนแดน จำนวน ๔๑๗ ราย และอำเภอวังโป่งจำนวน ๑๘๔ ราย รวมเป็น ๗๐๑ ราย เป็นเงิน ๗๐๑,๐๐๐ บาท ซึ่งจะได้ดำเนินการตามแผนการช่วยเหลือต่อไป ทั้งการมอบเงินสงเคราะห์เฉพาะหน้า และการมอบถุงยังชีพ รวมทั้งการฟื้นฟูหลังน้ำลด ซึ่งจะได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ลงไปเยี่ยมบ้านและประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อสำรวจปัญหาความต้องการจัดทำแผนฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย
สำหรับในวันนี้ ได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยใน ๓ พื้นที่ ได้แก่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลระวิง อำเภอเมือง มอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เฉพาะหน้า ๕๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ ครัวเรือน, หอประชุมชาญอนุสรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ มอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เฉพาะหน้า ๕๐๐ บาท จำนวน ๕๐๐ ครัวเรือน และหอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลดงมูลเหล็ก อำเภอเมือง มอบเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เฉพาะหน้า ๕๐๐ บาท จำนวน ๑,๐๐๐ ครัวเรือน รวมเป็น ๒,๐๐๐ ครัวเรือน