- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ๖๐-๖๙ ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา ๖๐๐ บาท / คน / เดือน
- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ๗๐-๗๙ ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา ๗๐๐ บาท / คน / เดือน
- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ๘๐-๘๙ ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา ๘๐๐ บาท / คน / เดือน
- ผู้สูงอายุ ที่มีอายุ ๙๐ ปีขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา ๑,๐๐๐ บาท / คน / เดือน
สำหรับการจ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุนั้น แบ่งตามหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รับผิดชอบผู้สูงอายุ ๗๖ จังหวัด จำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ย ๖,๕๕๑,๒๘๓ คน กรุงเทพมหานคร รับผิดชอบผู้สูงอายุ ๕๐ เขต จำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ย ๔๖๐,๐๐๐ คน และเมืองพัทยา จำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ย ๕,๓๓๙ คน รวมจำนวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพทั้งหมด ๗,๐๑๖,๖๒๒ คน และใช้งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน ๕๓,๖๐๘,๓๖๕,๖๐๐ บาท โดยจะดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอัตราเดิมไปก่อนคนละ ๕๐๐ บาท จำนวน ๒ เดือน (ต.ค,พ.ย.๕๔) แต่สำหรับกรุงเทพมหานครเนื่องจากประสบปัญหาความรุนแรงของอุทกภัย เขตที่ยังไม่ได้จ่าย จำนวน ๘ เขต ได้แก่ เขตหนองแขม มีนบุรี ดอนเมือง บางเขน ดินแดง ยานนาวา ปร้อมปราบศัตรูพ่าย และราชเทวี ซึ่งจะเร่งรัดจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ โดยจะจ่ายให้ ๓ เดือน (ต.ค,พ.ย,ธ.ค.๕๔) ในอัตราคงเดิมคนละ ๕๐๐ บาทไปก่อน ทั้งนี้ ทางรัฐบาลยืนยันว่า ผู้สูงอายุจะได้รับเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดในอัตราใหม่ที่กำหนดไว้ตามช่วงวัย หลังจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔ ผ่านกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา คาดว่าภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๕ จะสามารถจ่ายเงินส่วนต่างเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดสมบทให้ผู้สูงอายุ รวมทั้งจะดำเนินการจ่ายเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดให้ผู้สูงอายุได้ทุกคน
กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ ไปจนถึงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๕ เนื่องจากสถานการณ์ความรุนแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ทำให้ประชาชานที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยต้องเดินทางออกนอกพื้นที่ หรืออาศัยชั่วคราวตามศูนย์ฯต่างๆที่ทางราชการจัดไว้ให้ ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์การรับลงทะเบียน หรือไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางไปลงทะเบียนยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตนมีภูมิลำเนาในห้วงระยะเวลาตามที่กำหนด อันเป็นผลให้ผู้สูงอายุเสียสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการและความช่วยเหลือของรัฐ
ทั้งนี้ ผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีข้อกำหนด ดังนี้
๑. มีสัญชาติไทย
๒. อายุ ๖๐ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๕)
๓. เป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตพื้นที่ที่ยื่นคำขอ
๔. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จัดให้เป็นประจำ
ส่วนการยื่นขอรับสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มีข้อกำหนด ดังนี้
๑. ยื่นคำขอรับสิทธิได้ที่สำนักงานเขต เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านโดยยื่นได้ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึง ๑๓ มกราคม ๒๕๕๕
๒. หลักฐานประกอบการยื่นคำขอรับสิทธิ มีดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนพร้อมสำเนา
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารพร้อมสำเนา (สำหรับกรณีผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประสงค์ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผ่านธนาคาร)