นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค แถลงผลประกอบการในปีที่ผ่านมา และการฉลองครบ 40 ปีของบริษัทฯ ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ว่า ปีงบประมาณ 2554 เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 ถึงเดือนมีนาคม 2555 บริษัทฯประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จัดว่าเป็นปัจจัยลบต่อธุรกิจ ทั้งความผันผวนทางการเมือง ปัญหาทางเศรษฐกิจของโลกที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศ ตลอดจนอุทกภัยครั้งสำคัญในช่วงปลายปี และแม้ว่าโรงงานมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่บางนา-ตราด และนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติน้ำท่วม แต่ก็ได้รับผลกระทบทางอ้อมในส่วนของซัพพลายเชนในการผลิตเครื่องปรับอากาศ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการสั่งชิ้นส่วนจากต่างประเทศและแหล่งอื่นๆ ทดแทน กับปัญหาในระบบลอจิสติคของทุกผลิตภัณฑ์ ที่ต้องเลี่ยงเส้นทางการจัดส่งสินค้าในพื้นที่ต่างจังหวัด ทำให้ล่าช้าไปจากปกติ และทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมาก แต่เรายังคงฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาได้อย่างดี โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ตระหนักถึงความสำคัญของการตอบแทนสังคมและผู้บริโภคเพื่อร่วมช่วยบรรเทาความเดือดร้อน โดยได้จัดทำแคมเปญ “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ฟื้นฟูทุกหัวใจไทย สู้ภัยน้ำท่วม” ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 — มกราคม 2555 ได้แก่ การบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านบาท ให้แก่สภากาชาดไทย บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค ฟรี พร้อมลดราคาค่าอะไหล่ 50% โดยจัดหน่วยบริการลงพื้นที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ตลอดจนรับคืนสินค้าที่เสียหายจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ และการจัดแคมเปญสินค้าราคาพิเศษ พร้อมยืดระยะเวลาการผ่อน 0% เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเข้าร่วมมหกรรมสินค้าเบอร์ 5 ของภาครัฐที่จัดโดยกระทรวงพลังงาน ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2554 — 4 มกราคม 2555 ที่ไบเทคด้วย
“แม้ว่าจะมีปัญหาและวิกฤติต่างๆ มากมาย แต่ผลประกอบการของบริษัทฯ ก็เป็นที่น่าภาคภูมิใจโดยสามารถทำรายได้กว่า 6,500 ล้านบาทตามเป้าหมายในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ คือเมษายน —ธันวาคม 2554 หรือเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 หรือคิดเป็น 70% ของเป้าหมายของบริษัท ส่วนในไตรมาสสุดท้ายเดือนมกราคม — มีนาคมนี้ มั่นใจว่าจะสามารถทำให้ยอดขายตลอดปีงบประมาณบรรลุเป้าหมายที่ 9,500 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 3 คือช่วงเดือนตุลาคม — ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ยอดขายรวมของทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโต 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ ตู้เย็น ปั๊มน้ำ และเครื่องปรับอากาศ มีการเติบโตที่ดี อันเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคซื้อเครื่องใหม่เพื่อทดแทนในช่วงน้ำท่วม
ด้านสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในปี 2554 แบ่งเป็น เครื่องปรับอากาศ 58% ตู้เย็น 21% พัดลมและพัดลมระบายอากาศ 10% ปั๊มน้ำ 9% และอื่นๆ อีก 2% โดยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำตลาดคือเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน โดยเฉพาะในขนาดต่ำกว่า 24,000 บีทียู ที่มีตลาดรวม 9 แสนเครื่อง ซึ่งมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มีส่วนแบ่งตลาดถึง 33% ด้านเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ มีส่วนแบ่งตลาด 10% จากตลาดรวมกว่า 1 แสนเครื่อง ตู้เย็น ที่มีจำหน่ายในตลาดกว่า 1.25 ล้านเครื่อง มิตซูบิชิ อีเล็คทริคเป็น 1 ใน 3 ของแบรนด์ลีดเดอร์ โดยเป็นอันดับ 1 ในตลาดตู้เย็น 2 ประตู และ 3 ประตู ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 22% ปั๊มน้ำ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 โดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 55% ของตลาดรวมราว 320,000 เครื่อง พัดลมระบายอากาศครองตลาดเป็นอันดับ 1 คือ 47% ของตลาดรวมประมาณ 440,000 เครื่อง
สำหรับพัดลมในกลุ่มแบรนด์ญี่ปุ่นก็เป็นผู้นำอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 60% ด้วยความ โดดเด่นในด้านดีไซน์และคุณภาพ ซึ่งเรากล้ารับประกันความปลอดภัยสูงสุดและเป็นแบรนด์เดียวที่ใช้มาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ หรือระบบ Premium Safety ในทุกผลิตภัณฑ์ของเรา จึงทำให้แบรนด์ของเรามีคุณภาพสูงและได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคตลอดมาโดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับบนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความคุ้มค่า” นายประพนธ์กล่าว
ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบปีงบประมาณ 2555 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 5% จากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด อาทิ เครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ขนาดต่ำกว่า 24,000 บีทียู มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 34% จากตลาดรวมที่คาดว่าโตขึ้นราว 5% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 9.5 แสนเครื่อง เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ตั้งส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 12% จากตลาดรวม 107,000 เครื่อง ตู้เย็น มุ่งหวังให้มีส่วนแบ่งตลาด 22% จากตลาดรวม 1.28 ล้านเครื่อง ที่มีการเติบโตของตลาด 2% สำหรับส่วนแบ่งตลาดของปั๊มน้ำ ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 61% ในตลาดรวมของปีหน้าที่คาดว่าจะมีจำนวน 3.2 แสนเครื่อง พัดลม มีส่วนแบ่งตลาด 25% จากตลาดรวม 3.25 ล้านเครื่อง ในส่วนของ พัดลมระบายอากาศ ตั้งเป้ายอดขายโตขึ้น 2% และคาดว่ายังรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 47% ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ด้วยกลยุทธ์และการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย บริการหลังการขาย กิจกรรมและการสื่อสารการตลาด
ด้าน นายอนันต์ บรรเจิดธรรม กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย ให้รายละเอียดว่าปี 2555 นี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นที่เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม พัดลมระบายอากาศ และปั๊มน้ำ เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดเป็นพิเศษ รวมถึงสินค้าที่มีแนวโน้มตลาด ที่ดี เช่น เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ทั้งมิสเตอร์สลิม, ระบบอินเวอร์เตอร์ มัลติ สปลิท, ระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ, ผลิตภัณฑ์เพื่อการแสดงภาพ และผลิตภัณฑ์สำหรับงานโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในปีนี้เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยระบบประหยัดพลังงานที่ให้ค่าประสิทธิภาพการทำความเย็นหรือค่า EER สูงที่สุดถึง 16.13 ในรุ่นมูฟอายซูเปอร์อินเวอร์เตอร์ ในขณะที่ค่ามาตรฐานเบอร์ 5 ใหม่ที่ประกาศใช้ในปีนี้คือ 11.6
นอกจากนี้ยังมีสินค้าดีไซน์พิเศษที่ระลึกในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี มาจำหน่ายในจำนวนจำกัด ได้แก่ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม “คิริกามิเนะ เซน” ที่เรียบหรูและสง่างาม พร้อมสุดยอดเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน และทำงานเงียบสนิท ตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริค โฟลิโอ ฮิคาริ ซีรี่ส์ สีพิเศษ “คริสตัลบลู” ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น MR-F33D สีพิเศษ “อีลิแกนท์ แชมเปญ” และพัดลมดีไซน์ใหม่ที่สามารถปรับ-พับเก็บได้ พร้อมการควบคุมการทำงานด้วยระบบไมคอมเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
สำหรับกิจกรรมพิเศษฉลองครบ 40 ปี จะจัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วยงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท อาทิ งาน Mitsubishi Electric 40th Anniversary Expo วันที่ 30 มีนาคม — 8 เมษายน ที่ซีคอนสแควร์ นำเสนอมิติใหม่แห่งนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมนำผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดมาจำหน่ายในราคาพิเศษ และยกขบวนผลิตภัณฑ์ต่างๆไปมอบความสุขให้ผู้บริโภค ทั่วประเทศในงาน “Mitsubishi Electric 40th Anniversary Sale Expo”
พร้อมทั้งโครงการ 40 ปี มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มินิมาราธอน 2012 “Run for Health” ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต, พิษณุโลก, สุราษฎร์ธานี, กาญจนบุรี, พัทยา และเชียงราย ช่วงเดือนเมษายน — พฤศจิกายน พร้อมนำรายได้และเงินบริจาคส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนทั้งในด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ฯลฯ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งกิจกรรมประกวดออกแบบพัดลม เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถ จุดประกายให้เกิดการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์พัดลมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรม อินเทรนด์ สำหรับปี 2020” ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศผลรางวัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นต้น