นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า ในปีที่ผ่าน กบข.ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้สมาชิกออมอย่างเข้าใจ โดยตลอดทั้งปี 2554 กบข. เดินสายให้ความรู้และสื่อสารให้สมาชิกตระหนักถึงความเพียงพอของเงินออมเพื่อวัยเกษียณ สร้างความเข้าใจกับสมาชิกถึงความสำคัญของการบริหารเงินออม ส่งผลให้มีสมาชิกออมเพิ่มจำนวน 6,089 คน มากกว่าปี 2553 ที่มีสมาชิกออมเพิ่ม 3,314 คน ขณะที่สมาชิกเกษียณออมต่อกับ กบข.จำนวน 475 คน มากกว่าปี 2553 มีสมาชิกออมต่อ 319 คน นอกจากนี้ กบข.ยังได้พัฒนาหลักสูตรวางแผนทางการเงิน “Smart Up, Freedom More บริหารเงินอย่างมั่นคง สู่อิสรภาพที่มั่งคั่ง” โดย กบข.เดินสายให้ความรู้แก่ข้าราชการสมาชิก กบข. ทั่วประเทศเกือบ 20,000 คน สร้างวิทยากรเพื่อไปอบรมต่อกว่า 750 คน
สำหรับการจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกเป็นอีกด้านหนึ่งที่ กบข.ให้ความสำคัญ โดย กบข. กำหนดแนวทางการจัดสวัสดิการ 3 ด้าน “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สร้างความสุข” ซึ่ง กบข. จัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกกว่า 30 โครงการ มีสมาชิกใช้สวัสดิการมากกว่า 220,000 คน ได้แก่ โครงการบ้าน ธอส — ก.บข. เพื่อที่อยู่อาศัย ครั้งที่ 7 โครงการสิทธิพิเศษสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ธนชาตเพื่อสมาชิก กบข. โครงการเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์กรุงศรีออโต้ลิส โครงการตลาดนัด กบข. และโครงการ กบข.ฝึกอบรมอาชีพ เป็นต้น
ด้านการลงทุนในปี 2554 กบข.ได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจตั้งแต่ในไตรมาสแรก ติดตามความผันผวนของภาวะตลาดเงินตลาดทุนโดยตลอด จึงได้ดำเนินการปรับเพิ่มประสิทธิภาพของระบบบริหารกองทุน โดยปรับโครงสร้างการลงทุนต่างประเทศ เปิดโอกาสให้ กบข.สามารถว่าจ้างผู้จัดการกองทุนได้โดยตรง จากเดิมที่ลงทุนผ่านหน่วยลงทุน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและลดค่าใช้จ่าย ซึ่งปีที่ผ่านมา กบข.ได้ว่าจ้างผู้จัดการกองทุนต่างประเทศรายใหม่จำนวน 11 ราย นอกจากนี้ กบข. ได้เริ่มลงทุนในสินทรัพย์การลงทุนทางเลือกใหม่ คือ สินค้าโภคภัณฑ์ และคณะกรรมการได้อนุมัติกรอบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โลกและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มลงทุนในปี 2555
นางสาวโสภาวดี กล่าวต่อว่า ภาพรวมการลงทุนในปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และยุโรปเข้าสู่ภาวะชะลอตัวจากปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่มสหภาพยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจไทยก็เผชิญกับภาวะชะลอตัวเช่นกันจากการส่งออกซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจโลก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี ส่งผลให้ภาวะตลาดเงิน ตลาดทุนมีความผันผวนสูง ซึ่ง กบข. ได้ดำเนินกลยุทธ์การลงทุนอย่างระมัดระวังและปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ ณ สิ้นปี กบข. มีสินทรัพย์การลงทุนสุทธิ 522,435 ล้านบาท และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวตามเป้าหมายได้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี และ 5 ปี เฉลี่ยที่ 6.83% และ 4.85% ต่อปี เทียบกับอัตราเงินเฟ้อย้อนหลังเฉลี่ยที่ระดับ 2.10 % และ 2.80% ต่อปี ตามลำดับ
เกี่ยวกับ กบข.
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตาม พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข.เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบัน กบข.มีสมาชิก 1.2 ล้านคน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 500,000 ล้านบาท