โดย 3 คนเก่งที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาโคนม-โคเนื้อ ได้แก่ นายทนงศักดิ์ พวงโพพันธ์ (หนึ่ง) , นายวิทยา อิชยาวิณิชย์ (หนุ่ม) และ นางสาววรรณิดา ตะระรัมย์ (โอ๋เอ๋) มี ดร.ดำรง ลีนานุรักษ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา คอยเป็นพี่เลี้ยง เตรียมงาน วางแ ผน ให้คำแนะนำ และเป็นกำลังใจมาโดยตลอด จนทีมโคนมแม่โจ้สามารถประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียง ให้กับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้อีกครั้ง
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 5 ทีมสุดท้าย ด้วยการผ่านคัดเลือกบทความการนำเสนอแนวคิดในรอบแรก จาก 20 บทความ ของ 11 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละทีมที่เข้ารอบต่างก็เตรียมการมาอย่างดี ทั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน นครราชสีมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี และด้วยกลยุทธ์การนำเสนอของทีมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการแสดงบทบาทสมมติ ถ่ายทอดเรื่องราววิเคราะห์สถานการณ์การเลี้ยงโคนม การส่ง เสริมการบริโภคในแต่ละประเทศของของภูมิภาคอาเซียน อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา ผ่านตัวละครเพียง 3 ตัว พร้อมทั้งนำเสนอโมเดลการจัดตั้งบริษัทที่เป็นตัวแทนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั้งประเทศเข้าสู่สภาเพื่อพลักดันให้ “อุตสาหกรรมนมไทย ก้าวไกลสู่ประชาคมอาเซียน” ซึ่งทีมจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ก็ชนะใจกรรมการได้รับการตัดสินให้รับรางวัลชนะเลิศ ครองถ้วยพระราชทานฯ จากการแข่งขันไปครองได้ตามความคาดหมาย
น้องโอ๋เอ๋ สาวน้อยมากความสามารถของทีม กล่าวว่า "รู้สึกดีใจมากเมื่อผลการตัดสินออกมาว่าได้รับรางวัลชนะเลิศ ทุกคนรู้สึกหายเหนื่อย และภาคภูมิใจที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยได้อีกครั้ง ตามรอยรุ่นพี่ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศมาแล้วถึง 2 ครั้ง และเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนมุ่งมั่น จนถึงฝันในวันนี้ค่ะ" พร้อมทั้งได้ขอบคุณทุกคน ทุกฝ่าย ที่มีส่วนร่วมผลักดันและส่งเสริม สนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา คณาจารย์จากคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ สาขาโคนม-โคเนื้อที่ยกกองเชียร์ไปถึงสระบุรี รวมถึง พี่ๆศิษย์เก่าแม่โจ้จังหวัดสระบุรี ล พบุรี และศิษย์เก่าแม่โจ้ภาคกลาง ที่ไปคอยต้อนรับและเป็นกำลังใจและร่วมยินดี ทำให้เกิดความอบอุ่นเป็นอย่างมาก
จากนั้นทางคณะผู้บริหารคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมทีมงานได้เข้าพบ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อรายงานผลการแข่งขัน และมอบถ้วยรางวัลพระราชทานฯดังกล่าวให้เป็นเกียรติประวัติแก่มหาวิทยาลัย