glasstec 2012 ถือเป็นงานแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกทางด้านอุตสาหกรรมแก้วและกระจก(งานแสดงสินค้าทางด้านกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วและกระจก) ซึ่งการจัดงานครั้งที่ผ่านมามีผู้แสดงสินค้าเข้าร่วมกว่า 1,300 รายทั่วโลก มีผู้เข้าชมงานมากกว่า 44,000 คนทั่วโลก โดยจัดควบคู่กับงาน solarpeq 2012 (งานแสดงสินค้านานาชาติ เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์) กำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม นี้ ณ D?sseldorf Trade Fair Center (เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี) www.glasstec-online.com, www.solarpeq.com
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมแก้วและกระจกไทย ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งแก้วนั้นมีการใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น เครื่องดื่ม อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ เป็นต้น ส่วนการใช้กระจกและฉนวนใยแก้วนั้นมีมากขึ้นในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นการขยายตัวตามการเจริญเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการใช้กระจกเพื่อการตกแต่งในงานอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และที่พักอาศัยมากขึ้น และใช้ฉนวนใยแก้วในการกันความร้อน และการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ดังนั้นอุตสาหกรรมแก้วและกระจกจึงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญสาขาหนึ่งของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ควรได้รับการสนับสนุนให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับหนึ่งในยุทธศาสตร์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีการสร้างมูลค่า (Value Creation) ผ่านการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย
นายพยุงศักดิ์ กล่าวเพิ่มว่าการจัดงานแสดงสินค้า solarpeq 2012 ที่จัดควบคู่กันนั้นถือว่าเป็นงานที่มีประโยขน์มากสำหรับประเทศไทย ซึ่งกำลังมองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานทดแทน เพื่อลดการพึ่งพาการใช้พลังงานจากน้ำมันที่ปัจจุบันนี้มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่สามารถหาได้จากธรรมชาติเกือบตลอดปีมากขึ้น จะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
มร. ฮันส์ เวอร์เนอร์ ไรน์ฮาร์ด รองกรรมการผู้จัดการ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ กล่าวว่างานแสดงสินค้า glasstec 2012 เป็นงานใหญ่ระดับโลกที่เป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจกระจกและแก้วอย่างแท้จริง เพราะนอกจากมีการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้แล้ว ทางผู้จัดงานกล่าวว่า 80%ของผู้เข้าร่วมชมงานเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในองค์กรธุรกิจ ทำให้สามารถเกิดการสร้างเครือข่ายธุรกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต
เขากล่าวว่า ในงานแสดงสินค้า glasstec 2012 สิ่งที่ยังคงดึงดูดผู้ชมที่มาเยี่ยมชมงานเสมอมา คือ ส่วนแสดงพิเศษ glass technology live ซึ่งเป็นจัดแสดงการนำกระจกไปใช้งานที่เหมาะสมสำหรับเทคโนโลยีในอนาคต โดยผู้เชี่ยวชาญและนำโชว์ คือ โปรเฟสเซอร์ Stefan Behling และทีมงานจากสถาบันการก่อสร้างอาคาร ของมหาวิทยาลัย สตุทการ์ท โดยในโชว์ที่ผ่านๆ มาไฮไลท์อยู่ที่การแสดงการนำกระจกไปใช้ในรูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอ
มร. ไรน์ฮาร์ด กล่าวเพิ่มว่า ในงานยังมี ศูนย์แสดงงานฝืมือ Crafts Center ซึ่งมีไฮไลท์ บ้านกระจกที่จัดแสดงที่บูทของสมาคมการค้ากระจกแห่งรัฐ (Federal Association of Glazier Trades —BIV) ซึ่งในบ้านนี้เป็นศูนย์รวมของการโชว์นวัตกรรมงานฝีมือด้านกระจก ในการทำงานทั้งการออกแบบตกแต่งภายในและภายนอกอาคารเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้ชมและได้รับแรงบันดาลใจในวิธีการประยุกต์ใช้กระจกในทางปฏิบัติ
ดร. เบิร์น-โฮลเกอร์ ซิปเป้ ประธานฝ่ายเทคโนโลยีทางด้านแก้วและกระจก สมาพันธ์วิศวกรรมแห่งประเทศเยอรมนี กล่าวเสริมว่า กล่าวเสริมว่าสิ่งที่มีควบคู่ไปกับงาน glasstec 2012 คือ งานแสดงนานาชาติเพื่อนวัตกรรมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ solarpeq 2012 ที่รวมเอาสินค้า เครื่องจักร และอุปกรณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งการนำงาน 2 งานนี้มาไว้ด้วยกันเพื่อแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขายสินค้าของอุตสาหกรรมแก้วและกระจก และเป็นการให้แรงกระตุ้นแก่อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในการแข่งขันเพื่อประสิทธิภาพและการลดต้นทุน ไฮไลท์หนึ่งของงาน solarpeq 2012 คืองานสัมมนา solar meets glass ที่จะมีการนำเสนอในรายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการตลาดและเทคโนโลยี photovoltaics และกระจก การตลาดร่วมกันในอนาคต การลดต้นทุนและการพัฒนาเทคโนโลยี เป็นต้น
glasstec 2012 และ solarpeq 2012 กำหนดจัดงานขึ้นในระหว่างวันที่ 23-26 ตุลาคม นี้ ณ Dusseldorf Trade Fair Center (เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี) www.glasstec-online.com, www.solarpeq.com