1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย สำหรับ เงินได้ที่ได้รับจากการปลดหนี้ของสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้อื่น
2. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยและสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้อื่น สำหรับการโอนทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
3. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยและผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่จำนองอสังหาริมทรัพย์เป็นประกันหนี้กับสถาบันการเงินและได้มีการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวให้บุคคลอื่น เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ เฉพาะส่วนที่ ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระอยู่
4. ยกเว้นการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ที่กรมสรรพากรกำหนด สำหรับการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ของสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้อื่น
5. ลดหย่อนค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ลงเหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการโอนหรือการจำนองอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
6. ลดหย่อนค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองห้องชุดลงเหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการโอนหรือการจำนองอสังหาริมทรัพย์อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
นายทนุศักดิ์ กล่าวว่า “มาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่ได้รับความเสียหายโดยทางตรงหรือทางอ้อมจากอุทกภัยจะช่วยสนับสนุนให้สถาบันการเงินดูแลและบรรเทาภาระแก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งจะส่งผลให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤติและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยได้อย่างราบรื่น”
ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการดังกล่าวจะเป็นการเสริมมาตรการอื่นๆ เช่น มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งได้ออกไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้การออกมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น”
สำนักวิชาการแผนภาษี กรมสรรพากร
โทร. 0 2272 8033