งาน ครีเอทีฟเสวนา ปี 3 จัดขึ้นภายใต้ Young Muse Project โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 3 ที่ต้องการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่สนใจหาความรู้ในพิพิธภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น และเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ ต่อยอดสู่การคิดและผลิตผลงานที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ พร้อมปูทางสู่การเป็นนักพิพิธภัณฑ์รุ่นใหม่ที่จะสานต่อและขับเคลื่อนงานด้านพิพิธภัณฑ์ทดแทนคนรุ่นเก่าได้โดยไม่ขาดช่วง โดยมี นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) หรือ มิวเซียมสยาม และ นายสมชัย ส่งวัฒนา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และประธานอนุกรรมการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ อาคารเอนกประสงค์ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา
งาน ครีเอทีฟเสวนา ครั้งนี้ จัดขึ้นในหัวข้อ ทางออกของความคิด “คิดไม่ออก คิดไม่ได้ คิดไม่โดน” ซึ่งได้รับเกียรติจากสุดยอดนักคิดระดับแนวหน้า 3 ท่าน ได้แก่ “ต่อ สันติศิริ” นักสร้างสรรค์โฆษณา “เพชร โอสถานุเคราะห์” ประธานบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ “ทรงกลด บางยี่ขัน” บรรณาธิการนิตยสาร a day ร่วมเดี่ยวไมค์แฉตัวการปัญหาที่ทำให้ครีเอทีฟคิดงานไม่ออก พร้อมเผยสารพัดเคล็ดลับแก้ไอเดียตีบตันด้วย
นายต่อ สันติศิริ นักสร้างสรรค์โฆษณา อธิบายว่า การที่ครีเอทีฟคิดงานไม่ได้ คิดงานไม่ออก หรือคิดงานไม่โดน เกิดจากหลายปัญหา อาทิ การคำนึงถึงแต่กฎเกณฑ์ระหว่างคิดงาน การคิดงานโดยมีข้อมูลเพียงน้อยนิด การมีอารมณ์หลงใหลได้ปลื้มในความคิดแรกและยึดมั่นว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุด รวมถึงการมีประเด็นที่ต้องการสื่อสารมากเกินไป ซึ่งครีเอทีฟจะต้องรู้ว่าตนเองกำลังประสบปัญหาใด แล้วจึงค่อยคลายปมปัญหานั้น
“ครีเอทีฟควรรักษาความเป็นเด็กไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะจะมีความอยากรู้อยากเห็นเป็นที่ตั้ง นำไปสู่การค้นคว้าหาข้อมูลทั้งของตนเองและคู่แข่ง รวมถึงกระแสโลก และควรวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจอื่นๆ ด้วย พร้อมจัดลำดับความสำคัญของประเด็นที่ต้องการสื่อสารให้ชัดเจน และต้องไม่คิดว่าตัวเองเก่งและยึดมั่นว่าเป็นผลงานชิ้นแรกคืองานที่ดีที่สุด เพราะเป็นการปิดกั้นความคิดอื่นๆ ไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งการสร้างสรรค์แนวคิดที่ดีในแง่ของโฆษณา จะต้องเป็นแนวคิดที่ “ใหญ่ ยาว อึด” ใหญ่คือสามารถเผยแพร่ได้หลายสื่อ ยาวคือคงอยู่ได้นาน อึดคือไม่มีใครสามารถทำซ้ำได้ง่ายๆ แต่เมื่อการทำงานจริงต้องพบกับโจทย์แย่ๆ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโจทย์ได้ ก็ต้องคิดหาคำตอบที่ไม่ธรรมดา เข้าท่าและเป็นไปได้มากที่สุด" นักสร้างสรรค์โฆษณาเผย
นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานบริหารมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เล่าถึงวิถีที่จะนำไปสู่การคิดสร้างสร้างสรรค์อันเป็นประสบการณ์จริงของตนเองว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกอย่างน้อย 2 ใบ ใบแรกคือโลกของความเป็นจริงที่ต้องดำเนินตามกฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดไว้ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์แบบตอบโจท์ ส่วนโลกใบที่ 2 คือโลกแห่งความฝันและจินตนาการ ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่บริสุทธิ์แต่ไม่ตอบโจทย์ใดๆ
“ความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากความคิดแต่เกิดจากพื้นที่ว่าง หลายครั้งที่ครีเอทีฟคิดงานออกโดยไม่รู้ว่าความคิดนั้นหลั่งไหลมาจากไหน การตั้งโจทย์มากเกินไปทำให้ความคิดสร้างสรรค์ที่บริสุทธิ์และโดดเด่นไม่บังเกิด การอยู่ในโลกใบเดียวก็แคบเกินไปจนน่าเบื่อ ครีเอทีฟจึงต้องเปิดโลกทัศน์ให้กว้าง ดูดซึมข้อมูลและประสบการณ์ต่างๆ ที่มีอยู่บนโลกใบนี้ให้ได้มากที่สุด การมีข้อมูลทำให้เกิดการเรียนรู้และเข้าใจที่มาที่ไป หากพูดถึงคนจัดนิทรรศการ เขาย่อมไม่ใช่ศิลปิน แต่เป็นคนสื่อสารที่สร้างสรรค์ เพราะนิทรรศการจะต้องมีข้อมูลที่แน่น แต่เมื่อรวมกันออกมาแล้วผู้ชมจะต้องเกิดความรู้สึกตามมา” ประธานบริหาร ม.กรุงเทพกล่าว
ทางด้าน นายทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการนิตยสาร a day อธิบายว่า ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ครีเอทีฟคิดไม่ออก คิดไม่ได้ คิดไม่โดน คือการตีกรอบความคิดว่าตนเองรู้เยอะ ทำให้ความคิดสร้างสรรค์อื่นๆ ไม่อาจเผยตัวออกมาได้ ดังนั้นการคิดว่าไม่รู้อะไรเลยและคอยสังเกตสิ่งรอบตัว จะทำให้คิดสิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมากมาย และการคิดสร้างสรรค์ที่ดีไม่ใช่แค่คิดนอกกรอบ แต่ต้องแก้ปัญหาได้ด้วย จึงจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง
“ทุกวันนี้สังคมไทยให้การยกย่องความคิดของครีเอทีฟ เกิดกรอบความคิดที่ว่า งานสร้างสรรค์ต้องเกิดจากผู้ที่อยู่ในสายงานครีเอทีฟเท่านั้น แต่แท้ที่จริงงานสร้างสรรค์สามารถเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนเดินดินทั่วไป เช่น ป้าย “วันนี้วันพระ” คำโฆษณาง่ายๆ บนกระดาษเก่าๆ ที่เขียนด้วยลายมือบิดเบี้ยว แต่สามารถตอบโจทย์ง่ายๆ แบบชาวบ้าน ด้วยการทำให้ยอดขายมาลัยดอกไม้พุ่งกระฉูด ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ครีเอทีฟคิดงานไม่ออกคือ การตั้งโจทย์คำถามไม่เป็น หากสามารถตั้งโจทย์ได้แหลมคม คำตอบที่ได้ย่อมแหลมคม ดังนั้นการคิดงานไม่ออกไม่ใช่เพราะหาคำตอบไม่เจอ แต่เกิดจากหาโจทย์ไม่เจอต่างหาก” บก.a day กล่าว
จากปัญหาคิดไม่ออก คิดไม่ได้ คิดไม่โดน ที่ผู้เสวนาทั้ง 3 แขนง ได้ช่วยกันแนะนำวิธีแก้อาการแบบต่างๆ จะเห็นได้ว่า ทางออกของความคิดทางหนึ่งที่ผู้เสวนาล้วนเห็นพ้องตรงกันคือการค้นคว้าและเปิดรับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ก่อนจะนำไปสู่การคิดสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และสามารถแก้ปัญหาได้ในวิธีที่คนอื่นนึกไม่ถึง แต่ในช่วงท้ายของการเสวนาก็มีคำถามจากผู้ร่วมงานมากมายซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าในโลกของวิชาชีพที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ยังมีกฎเกณฑ์ทับซ้อนมากมายที่เป็นอุปสรรคของความคิด
Young Muse Project โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 3 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักคิดรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวสู่การทำงานจริงในอนาคต เพื่อฝึกทักษะการคิดและผลิตผลงานภายใต้สถานการณ์จริง สำหรับนักคิดรุ่นใหม่ที่ยังคิดไม่ออก คิดไม่ได้ คิดไม่โดน สามารถรับฟังทางออกของความคิดย้อนหลังได้ที่ www.facebook.com/museumsiamfan หรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Young Muse Project ได้ที่ โทร. 02-2252777 ต่อ 411