กระทรวงคมนาคม จัดเสวนาแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อสร้างอนาคตของประเทศไทยและรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน

อังคาร ๒๕ กันยายน ๒๐๑๒ ๑๒:๑๓
กระทรวงคมนาคมจัดเสวนา “โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ — ๒๕๖๓” เพื่อวางรากฐานการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาว สนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ พร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานเสวนา “โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ — ๒๕๖๓” ในวันศุกร์ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๕ ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ เพื่อยกระดับความสนใจของประชาชนต่อแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ และจัดทำรายงานการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประกอบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงคมนาคม ได้แก่ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า ๑๐ สายทาง โดยเก็บค่าบริการ ๒๐ บาทตลอดสาย พัฒนาการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี และพัฒนาท่าอากาศยานสากล ท่าอากาศยานภูมิภาค และอุตสาหกรรมการบินของไทย พร้อมทั้งรองรับการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยรัฐบาลได้จัดทำแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ พ.ศ. ๒๕๕๖ — ๒๕๖๓ วงเงินลงทุน ๒ ล้านล้านบาท ครอบคลุมทั้งการขนส่งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีก ๑๐ — ๑๕ ปีข้างหน้า โดยแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ ส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านคมนาคมขนส่ง อันส่งผลดีต่อการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ซึ่งแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ ดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาวที่มีผลกระทบต่อประชาชนในทุกภาคส่วน ดังนั้น การดำเนินงานตามแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ จึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ การมีส่วนร่วม และสร้างความตื่นตัวของประชาชนในพื้นที่ เพื่อยกระดับความสนใจของประชาชนต่อแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศ รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง และมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ ที่จะเกิดในแต่ละภูมิภาค

สำหรับการรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ ในส่วนของกระทรวงคมนาคม จำเป็นต้องพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทุกด้านให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ โดยตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งลดสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ของไทย จากปัจจุบันร้อยละ ๑๗.๙ ต่อ GDP ให้ลดลงเหลือร้อยละ ๒ ภายในระยะเวลา ๕ ปี ทั้งนี้ในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม จะเป็นสัดส่วนของต้นทุนภาคการขนส่งประมาณร้อยละ ๘.๗ ซึ่งการดำเนินโครงการทุกโครงการจะต้องส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขนส่ง จากปัจจุบันที่มีการขนส่งในภาคทางบกสูงถึงร้อยละ ๘๖ ภาคการขนส่งทางน้ำร้อยละ ๑๒ ภาคการขนส่งทางรางร้อยละ ๒ และภาคการขนส่งทางอากาศร้อยละ ๐.๐๒ จะต้องส่งเสริมให้มีการขนส่งทางน้ำและทางรางเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางน้ำเป็นร้อยละ ๑๔ และการขนส่งทางรางร้อยละ ๔

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดในภาคตะวันออก เฉียงเหนือที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจทางภาคอีสาน เนื่องจากเป็นจังหวัดเศรษฐกิจชายแดนไทย — ลาว มีมูลค่ารวม ๑๑๑,๐๒๐ ล้านบาท ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีการไปมาหาสู่กันด้านการค้า การท่องเที่ยวระหว่างไทย — ลาว ผ่านทางด่านพรมแดนช่องเม็ก — วังเต่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ โดยผลักดันให้มีการพัฒนาและการลงทุนระบบคมนาคมขนส่ง พัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคและเชื่อมโยงกับโครงข่ายคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวเศรษฐกิจ ปรับปรุงระบบอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่งสินค้าข้ามแดนในพื้นที่บริเวณชายแดนที่สำคัญ ได้แก่ ด่านหนองคาย แม่สอด มุกดาหาร สระแก้ว ด่านสิงขร และช่องเม็ก

กระทรวงคมนาคมมีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง จึงได้จัดเสวนาฯ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้เสีย รวมทั้งประชาชนในระดับท้องถิ่นต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ — ๒๕๖๓ และนำผลที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ มาใช้วิเคราะห์ปัญหาและโอกาสของโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา